ที่ประชุม กนง.ล่าสุด มีมติ 6 ต่อ 1 “คงดอกเบี้ยนโยบาย” ที่ 1.75% มองเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ แม้ยอมรับ เศรษฐกิจครึ่งปีหลังเสี่ยงสะดุด จากปัญหาสงครามอิสราเอล-อิหร่าน และ ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ คาด GDP ปี 2568 เติบโต 2.3% ส่วนปี 2569 ขยายตัวต่ำ 1.7%
เป็นอีกนัดการประชุมที่น่าจับตามอง สำหรับ การประชุม กนง. (คณะกรรมการนโยบายการเงิน ) ครั้งที่ 3 ของปี 2568 หลังจากหลายฝ่ายประเมินว่า ทั้งปัจจัยภายในประเทศ และ ปัจจัยภายนอก ทั้งปัญหาการเมือง และ สงครามอิหร่าน-อิสราเอล อาจนำไปสู่ การพิจารณาลดดอกเบี้ยลงต่อได้ จากภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอและเงินเฟ้อที่ติดลบ
ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำจากปัจจัยด้านอุปทาน ในขณะที่สินเชื่อชะลอลง ส่วนหนึ่งจากความต้องการสินเชื่อที่ลดลงในบางกลุ่มและความเสี่ยงด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้น
คณะกรรมการฯ จึงเห็นว่านโยบายการเงินควรอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในระยะถัดไป ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาสามารถรองรับความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง
“ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยให้ความสำคัญกับจังหวะเวลาและประสิทธิผลของนโยบายการเงินภายใต้บริบทที่มีความไม่แน่นอนสูงและขีดความสามารถของนโยบายการเงิน (policy space) มีจำกัด ขณะที่กรรมการ 1 ท่านเห็นควรให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี เพื่อลดภาระดอกเบี้ยและเอื้อต่อการปรับตัวของกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง “
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 2.3% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากข้อมูลเศรษฐกิจจริงในไตรมาสที่ 1 และเครื่องชี้เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 มีแนวโน้มขยายตัวดีกว่าที่ประเมินไว้ จากการเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ ส่งผลบวกต่อภาคการผลิตและภาคบริการที่เกี่ยวข้อง
แต่ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง จากผลกระทบความชัดเจนของนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง และจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามเป้า ส่วนเศรษฐกิจปี 2569 คาดการณ์ขยายตัวต่ำ 1.7% สำหรับการประชุม กนง.นัดต่อไป จะเกิดขึ้นวันที่ 13 ส.ค. ปี 2568 ,8 ต.ค. ปี 2568 และ 17 ธ.ค. ปี 2568
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney