หนี้ครัวเรือนไทย 10 ปี ไม่เคยแผ่ว ทะลุ 16 ล้านล้าน หนี้เสียพุ่ง 8.9% เสี่ยงฉุดเศรษฐกิจชะลอตัว

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หนี้ครัวเรือนไทย 10 ปี ไม่เคยแผ่ว ทะลุ 16 ล้านล้าน หนี้เสียพุ่ง 8.9% เสี่ยงฉุดเศรษฐกิจชะลอตัว

Date Time: 24 มิ.ย. 2568 17:08 น.

Video

ซีเค ซีอีโอ Fastwork เล่าประสบการณ์วางแผนชีวิต วางแผนการเงิน I Thairath Money Roadshow 2025 โคราช

Summary

สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยพุ่งสูงต่อเนื่อง 10 ปี โดยส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อรายได้และเสี่ยงกลายเป็นหนี้เสีย สะท้อนความเปราะบางทางการเงินของคนไทย และอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศในระยะยาวหากไม่เร่งแก้ไขหรือหาทางรับมือ

Latest


การมี "หนี้" ไม่ใช่เรื่องผิด หากหนี้เหล่านั้นมาจากการกู้ยืมในสิ่งจำเป็น เช่น จ่ายค่าพยาบาลให้คนในครอบครัว ซื้อที่อยู่อาศัย หรือนำไปลงทุนเพื่อให้เกิดรายได้

หากแต่ปัจจุบัน ประเทศไทยมีหนี้ครัวเรือนในสัดส่วนอัตราที่ค่อนข้างสูง และส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่ไม่สร้างรายได้ (Non-productive) หรือเป็นหนี้ที่พึงระวังเพราะมาจากการใช้จ่ายเกินตัว ซึ่งส่งผลให้เงินที่กู้ยืมมาติดลบมากกว่างอกเงย

เมื่อหนี้ครัวเรือนของประเทศอยู่ในระดับสูง ความเสี่ยงของการเกิดหนี้เสียก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เพราะการมีหนี้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าการเงินและรายได้ของคนไทยเริ่มหดตัวลงเรื่อย ๆ และอาจส่งผลกระทบต่อ GDP และการเติบโตของประเทศ

เปิดสถิติหนี้ครัวเรือนไทย 10 ปี ไม่เคยแผ่ว

จากการรายงานของสภาพัฒน์และธนาคารแห่งประเทศไทยพบว่า อัตราหนี้ครัวเรือนไทยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2558 ถึงไตรมาสแรกของปี 2568 ยังคงอยู่ในตัวเลขที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ โดย Thairath Money ได้รวบรวมหนี้ครัวเรือนไทยทั้ง 10 ปีที่ผ่านมา ดังนี้

ปี 2558 

  • มูลค่าหนี้ครัวเรือน = 11.5 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วนหนี้ต่อ GDP = 84.9%
  • หนี้ NPL = 0.5 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อ = 5.9%

ปี 2559

  • มูลค่าหนี้ครัวเรือน = 12.1 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วนหนี้ต่อ GDP = 84.1%
  • หนี้ NPL = 0.7 ล้านล้านบาท 
  • สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อ = 6.7%

ปี 2560

  • มูลค่าหนี้ครัวเรือน = 12.5 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วนหนี้ต่อ GDP = 82.2%
  • หนี้ NPL = 0.7 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อ = 7.2%

ปี 2561

  • มูลค่าหนี้ครัวเรือน = 13.2 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วนหนี้ต่อ GDP = 81.9%
  • หนี้ NPL = 0.8 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อ = 7.0%

ปี 2562

  • มูลค่าหนี้ครัวเรือน = 14.0 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วนหนี้ต่อ GDP = 83.0%
  • หนี้ NPL = 0.9 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อ = 7.9%

ปี 2563

  • มูลค่าหนี้ครัวเรือน = 14.5 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วนหนี้ต่อ GDP = 91.2%
  • หนี้ NPL = 0.9 ล้านล้านบาท 
  • สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อ = 7.5%

สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ในปี 2563 นั้นมีอัตราสูงเป็นอันดับ 2 ในสถิติ 10 ปีนี้ เนื่องจากเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 หลายคนสูญเสียรายได้หนักและมีหนี้พุ่งสูงจากการที่โลกหยุดชะงักและไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้

ปี 2564

  • มูลค่าหนี้ครัวเรือน = 15.1 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วนหนี้ต่อ GDP = 94.1 %
  • หนี้ NPL = 9.7 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อ = 7.7%

สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ในปี 2564 เป็นตัวเลขสูงสุดใน 10 ปีนี้ เพราะเป็นช่วงฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 ซึ่งผลกระทบจากเศรษฐกิจที่หยุดชะงักและธุรกิจที่ต้องปิดตัวทำให้การเงินของคนไทยสั่นคลอน และมีหนี้เพราะเหตุการณ์โรคระบาดที่ไม่คาดฝันลากยาวมาจนถึงทุกวันนี้

ปี 2565

  • มูลค่าหนี้ครัวเรือน =  15.7 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วนหนี้ต่อ GDP = 91.7 %
  • หนี้ NPL =  10.9 ล้านล้านบาท 
  • สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อ = 8.4%

สัดส่วนหนี้ต่อ GDP เริ่มชะลอตัวลงเพราะการปล่อยสินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้นเนื่องจากธนาคารมีความกังวลจากอัตราหนี้เสียที่ยังอยู่ในระดับสูง และหนี้ครัวเรือนยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ 

ปี 2566

  • มูลค่าหนี้ครัวเรือน = 16.2 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วนหนี้ต่อ GDP = 90.8%
  • หนี้ NPL = 10.5 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อ = 7.7%

ปี 2567

  • มูลค่าหนี้ครัวเรือน = 16.4 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วนหนี้ต่อ GDP = 88.9%
  • หนี้ NPL = 12 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อ = 8.8%

ไตรมาส 1 ปี 2568

  • มูลค่าหนี้ครัวเรือน = 16.4 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วนหนี้ต่อ GDP = 88.4%
  • หนี้ NPL = 12.2 ล้านล้านบาท
  • สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อ = 8.9%

แม้ตัวเลขสัดส่วนหนี้ต่อ GDP จะลดลงในภาพรวม โดยมีผลมาจากการปล่อยสินเชื่อครัวเรือนที่น้อยลง เนื่องจากหนี้เสียของคนไทย (NPL) และสัดส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อยังอยู่ในระดับสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ  ซึ่งอาจส่งผลให้หลายคนหันไปพึ่งพาหนี้นอกระบบมากขึ้นเพราะอยากได้เงินมาหมุนเวียนแม้ดอกเบี้ยจะสูงจนน่ากลัว

สุดท้ายนี้ หากยังไม่มีการแก้ไขหรือหาทางออกให้กับปัญหาหนี้ครัวเรือนเหล่านี้ อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจและการเงินของคนในประเทศในระยะยาวได้ เพราะคนไทยเสี่ยงมีหนี้ติดตัวสูงกว่ารายได้จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเพราะหนี้ครัวเรือนฉุดรั้ง

ที่มา : สภาพัฒน์, ธนาคารแห่งประเทศไทย

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ