
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นมีการเติบโตที่ก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก เราสามารถเห็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามามีบทบาทที่ทำให้ชีวิตประจำวันของเราสะดวกมากขึ้น เช่น การเดินทาง, การติดต่อสื่อสาร หรือแม้แต่เรื่องการเงิน
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการประกาศ 3 รายชื่อผู้ได้รับความเห็นชอบให้จัดตั้ง Virtual Bank หรือธนาคารไร้สาขา ที่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟนแบบครบจบในที่เดียวได้
ซึ่งนี่นับว่าเป็นก้าวสำคัญทางการเงินของประเทศไทย เพราะเป็นสัญญาณที่ดีว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีการตั้งคำถามว่าแล้วคนไทยจะได้อะไรจากการมี Virtual Bank?
จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ในปี 2567 มีจำนวนผู้ใช้บริการ Mobile Banking สูงถึง 117 ล้านบัญชี และมียอดทำธุรกรรมรวมมูลค่ากว่า 74 ล้านล้านบาท ในขณะที่ปี 2564 มีเพียง 84 ล้านบัญชี และมีการยอดทำธุรกรรมผ่าน Mobile Banking ราว 57 ล้านล้านบาทเท่านั้น
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าในช่วงเวลาเพียงแค่ 4 ปี คนไทยหันมานิยมใช้บริการทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ในขณะเดียวกันก็ยังพบว่าระบบการเงินไทยยังประสบปัญหาอยู่ เช่น
น้อยกว่า 50% ของ SMEs รายเล็ก ที่จะสามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้
ผู้มีรายได้น้อย/ไม่ประจำ จำนวนมากยังต้องพึ่งพาการกู้นอกระบบที่ดอกเบี้ยสูง ราว 100-300%
76% ของผู้มีรายได้น้อย มีเงินออมฉุกเฉินไม่ถึง 6 เดือน
ซึ่งเป็นปัญหามาจากการที่รูปแบบธนาคารดั้งเดิมนั้นมีการปล่อยสินเชื่อที่ยากกว่า เนื่องจากมีการให้บริการผ่านสาขาจึงมีต้นทุนสูง และการทำธุรกรรมในบ้างครั้งก็ต้องใช้เวลานาน
แต่การมี Virtual Bank หรือธนาคารพาณิชย์ไร้สาขานั้นจะแตกต่างออกไปจากเดิม คือ
การมี Virtual Bank จะผลักดันคนไทยให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่ม SMEs รายเล็ก, ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และเกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มเผชิญกับปัญหาหนี้นอกระบบสูง เนื่องจากเข้าถึงสินเชื่อได้ยาก
แต่เมื่อมี Virtual Bank ที่เป็นธนาคารไร้สาขานั้นจะทำให้ต้นทุนของธนาคารน้อยลงเพราะไม่จำเป็นต้องมีสาขาย่อยของธนาคาร ไม่ต้องเสียค่าสถานที่หรือค่าจ้างเจ้าหน้าที่ดูแล ซึ่งจะส่งผลให้ การเข้าถึงสินเชื่อของคนทั่วไปสามารถทำได้ง่ายมากขึ้น ปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบจะน้อยลงเพราะคนหันมาพึ่งพาการกู้กับธนาคารมากขึ้น
รวมไปถึงการออมของคนไทยก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเพราะการที่ธนาคารค่าใช้จ่ายน้อยลง การให้ดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าที่ออมเงินก็จะมากขึ้นเช่นกัน โดยอ้างอิงจากศูนย์วิจัยกสิกร ในกรณีของเกาหลีใต้ ที่พบว่ายอดเงินฝากของ Virtual Bank ทยอยเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 27 ล้านล้านวอน ณ สิ้นปี 2563 หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2.1% ของยอดคงค้างเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ของเกาหลีใต้หลังจากประกาศให้มี Virtual Bank ในปี 2560
สรุปคือคนไทยจะได้ผลประโยชน์จากการมี Virtual Bank คือสามารถแก้ปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบได้ เพราะการปล่อยสินเชื่อจะเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิมสำหรับกลุ่มลูกค้ารายย่อย
และกระตุ้นการออมให้คนไทยมีเงินฝากในบัญชีธนาคารเพิ่มขึ้นเนื่องจากดอกเบี้ยสูง เพราะธนาคารไร้สาขามีต้นทุนน้อยกว่าธนาคารทั่วไป รวมไปถึง สะดวกและประหยัดเวลาในการดำเนินธุรกรรมการเงิน เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย
ในตอนนี้ประเทศไทยมี 3 รายชื่อที่ได้รับความเห็นชอบให้จัดตั้ง Virtual Bank ดังนี้
โดยเราจะเห็นได้ Virtual Bank จากทั้ง 3 รายชื่อนี้ภายใน 1 ปีหลังจากมีการประกาศผู้ได้รับอนุญาต ตามการรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -