สภาพัฒน์ห่วงคนไทยชีวิตติดหรู

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

สภาพัฒน์ห่วงคนไทยชีวิตติดหรู

Date Time: 10 มิ.ย. 2568 07:30 น.

Summary

สภาพัฒน์ชี้หนี้ครัวเรือนลดลง เพราะแบงก์ยังเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ แต่ห่วงคนไทยติดหรู ผู้ชายเป็นมากกว่าผู้หญิง มีเงินเก็บน้อยกว่า 6 เดือน และมีแนวโน้มเข้าสู่วงจรหนี้ง่ายขึ้น สะท้อนการขาดความรู้และการวางแผนทางการเงิน ด้านสถานการณ์แรงงาน พบผู้เสมือนว่างงาน 4.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14.6%

Latest

BYD ฉลองโรงงานไทยครบ 1 ปี ส่งมอบรถยนต์พลังงานใหม่ทะลัก 9 หมื่นคัน

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยภาวะสังคมไตรมาส 1/2568 ว่า สถานการณ์แรงงานมีผู้มีงานทำ 39.4 ล้านคน พบว่าอัตราการว่างงานลดลง มาอยู่ที่ 0.88% จากไตรมาสหนึ่ง ปี 2567 ที่อยู่ที่ 1.01% ซึ่งมีผู้ว่างงานประมาณ 360,000 คน ลดลงในกลุ่มที่จบการศึกษาระดับมัธยมปลายหรือต่ำกว่า เช่นเดียวกับผู้ว่างงานระยะยาวที่ลดลง 14.3% หรือมีจำนวน 68,000 คน โดยกลุ่มผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนกว่า 74.3% ว่างงานเพราะหางานไม่ได้ ขณะที่ผู้เสมือนว่างงานมีจำนวนกว่า 4.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 14.6% โดยภาคเกษตรกรรมมีการจ้างงานลดลงต่อเนื่อง ส่วนนอกภาคเกษตรขยายตัวได้เล็กน้อย แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับความอยู่รอดของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) จากการขาดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เด็กจบใหม่ที่อาจเสี่ยงตกงาน รวมถึงการสร้างหลักประกันการถูกเลิกจ้างให้แก่แรงงาน


ส่วนภาวะหนี้ครัวเรือน ยังเป็นข้อมูลของในไตรมาส 4 ปี 2567 มีมูลค่า 16.42 ล้านล้านบาท ขยายตัว 0.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปรับลดลงมาอยู่ที่ 88.4% จาก 88.9% ของไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่คุณภาพสินเชื่อของครัวเรือนลดลง โดยมีประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญ ได้แก่ การมีพฤติกรรมการบริโภคแบบติดหรูของคนไทยที่อาจนำไปสู่การก่อหนี้เกินตัว โดยคนไทย 1 ใน 3 นิยมสินค้าหรู (Luxury) เกิดจากความต้องการได้รับการยอมรับในสังคมและแสดงฐานะทางสังคม และพบผู้ชายติดหรูมากกว่าผู้หญิง นิยมซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องแต่งกาย สินค้าแฟชั่น อาหารและเครื่องดื่ม และพบว่า 50% ของผู้มีรสนิยมติดหรูมีเงินเก็บน้อยกว่า 6 เดือนและมีแนวโน้มเข้าสู่วงจรหนี้ง่ายขึ้น สะท้อนการขาดความรู้และการวางแผนทางการเงิน

ขณะเดียวกัน ควรมีการผลักดันให้สหกรณ์เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครดิตบูโร ซึ่งถือเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ประชาชนสามารถหลุดจากปัญหาหนี้สิน รวมถึงเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อที่เป็นธรรม ด้านคุณภาพสินเชื่อของครัวเรือนปรับลดลง โดยมูลค่าสินเชื่อส่วนบุคคลที่ค้างชำระเกิน 90 วันขึ้นไป (NPLs) ในฐานข้อมูลเครดิตบูโร มีจำนวน 1.22 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 8.94% เพิ่มขึ้นจาก 8.78% ของไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่สินเชื่อค้างชำระระหว่าง 30 – 90 วัน (SMLs) มีมูลค่า 568,000 ล้านบาท ลดลง 6.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ