ศึกชิงเก้าอี้ “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” เปิดตัว 7 ผู้ท้าชิง กับโจทย์หิน “คุมเสถียรภาพการเงิน” ท่ามกลางพายุประชานิยม ใครเป็นใครบ้าง ? ในใบสมัคร ก่อนรู้ชัด 2 กรกฎาคม นี้
นับเป็นตำแหน่งสำคัญที่น่าจับตามองมากที่สุดแห่งยุค สำหรับ เก้าอี้ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนที่ 25 ของเมืองไทย หลังจาก “ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ มาตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2563 รวมระยะเวลา 5ปี จะหมดวาระลง 30 กันยายน 2568 นี้แล้ว
ท่ามกลาง นโยบายการคลัง และ นโยบายการเงินของประเทศสวนทางกันอย่างมีนัยสำคัญ ขณะ “เศรษฐกิจ” ทั้งภายในและภายนอก อยู่บนความเสี่ยงและไม่แน่นอนรายวัน เสถียรภาพระบบการเงิน ยิ่งมีความสำคัญ
หากหน้าที่ของผู้ว่าแบงก์ชาติ เปรียบเหมือนผู้กุมทิศทาง”ดอกเบี้ยนโยบาย”มีส่วนกำหนด การขึ้นหรือลดดอกเบี้ย เพื่อให้เศรษฐกิจไม่ร้อนแรงเกินไป หรือไม่ซบเซาเกินไป จนกระทบตัวเลข เงินเฟ้อ, ค่าครองชีพ, ดอกเบี้ยบ้าน-รถ ,หนี้ครัวเรือน เรื่อยไปจนถึง ต้นทุนธุรกิจ
อีกทั้ง มีบทบาท ดูแลค่าเงินบาท ไม่ให้ “แข็งหรืออ่อน” จนเกินไป จนส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจ , ควบคุมดูแล ระบบธนาคาร–การเงิน ให้มั่นคง ,ออกนโยบาย กฎเกณฑ์การเงิน ให้เศรษฐกิจเดินได้ แต่ต้องไม่พัง ภายใต้สถานะสำคัญ เป็น”องค์กรอิสระ” อยู่นอกเหนือการสั่งการจากรัฐบาล
ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ คนใหม่ ยิ่งมีความท้าทายสุดกับการสร้างสมดุลอำนาจทางเศรษฐกิจ ซึ่งดูเหมือนจะสวนทางกับเป้าหมายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่มีทิศทางในการทำนโยบาย ที่พุ่งเป้าไปยังการบรรเทาความเดือดร้อนของคนส่วนใหญ่ในทันที
โดยหวังให้เกิดแรงส่งทางเศรษฐกิจ หรือ แนวนโยบายที่ช่วยให้คนตัวเล็กหายใจได้คล่องขึ้นในระยะสั้น แม้จะต้องแลกมากับภาระด้านวินัยการเงินในระยะยาว บ้างถูกเรียกเป็น “นโยบายประชานิยม” (populist) เช่น การแจกเงิน Digital Wallet เป็นต้น
ทั้งนี้ กระบวนการ สรรหา “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” คนใหม่ ขณะอยู่อยู่ในไทม์ไลน์ รอประกาศชื่อผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติ ซึ่งจะรู้อีกที วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนสัมภาษณ์ แสดงวิสัยทัศน์ และ เคาะรายชื่อให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ซึ่งตามกำหนดการ เราจะได้รู้ชื่อ ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ที่ผ่านการอนุมัติจาก ครม. วันที่ 2 กรกฎาคม 2568
สำหรับรายชื่อผู้สมัครตำแหน่ง ผู้ว่าแบงก์ชาติ หลังคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ปิดรับสมัครไปเมื่อ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ปรากฎ 7 แคนดิเดต สำคัญ ดังนี้
1.ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งเป็น กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) นับเป็นนักเศรษฐศาสตร์สำคัญคนหนึ่งของไทย ด้วยประสบการณ์หลากหลายทั้งในภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ทำให้มีความเข้าใจลึกซึ้งในระบบเศรษฐกิจไทยจากหลายมิติ โดยคาดกันว่า หาก ดร.กอบศักดิ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าแบงชาติคนต่อไป เขาอาจนำพาแนวคิดใหม่ ๆ ที่เน้นการประสานระหว่างเสถียรภาพทางการเงินและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน มาปรับใช้
ประวัติการศึกษา
ประวัติการทำงาน
2.ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส
ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นับเป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่น่าจับตามองมากที่สุด ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในวงการการเงินและบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายการเงินของประเทศ
มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาระบบการเงินของไทยให้มีความสมดุล ยืดหยุ่น และยั่งยืน ให้ความสำคัญกับการแก้หนี้ครัวเรือน ผ่านการสนับสนุนให้คนไทยมีรายได้สูงขึ้น มีความรู้ทางการเงินมากขึ้น และเน้นย้ำบทบาทของภาคธนาคารในการปล่อยสินเชื่อแบบมีความรับผิดชอบ
ประวัติการศึกษา
ประวัติการทำงาน
3.ดร. สุทธาภา อมรวิวัฒน์
“ดร. สุทธาภา อมรวิวัฒน์” ตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัท SCB Abacus หนึ่งในบริษัท FinTech ชั้นนำด้านการปล่อยสินเชื่อผ่านเทคโนโลยี AI และ Big Data ของไทย อีกทั้งมีประสบการณ์ทำงาน ในวงการการเงินการธนาคาร ทั้งองค์กรระหว่างประเทศและภาคเอกชนชั้นนำหลายแห่ง
จึงคาดกันว่า ประสบการณ์ตรงที่เชื่อมโยงกับโลกการเงินยุคใหม่ (Digital Economy) จะเป็นแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของแบงก์ชาติ ของ ดร.สุทธาภา เนื่องจากกำลังเป็นเรื่องที่ ธปท. ต้องปรับตัวอย่างมากในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ เช่น Virtual Bank, Open Finance, e-Money, DeFi
ประวัติการศึกษา
ประวัติการทำงาน
4.ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ
“ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ” อดีตรองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์
เป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่น่าจับตามองสำหรับตำแหน่งผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ ด้วยประสบการณ์ที่หลากหลายและความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ และการเชื่อมโยงนโยบายสาธารณะ
แนวคิดที่เด่นชัดคือ การมีมุมมองที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย โดยเน้นการใช้ข้อมูลที่สมบูรณ์และหลากหลายในการวิเคราะห์และกำหนดนโยบาย เพื่อปลดล็อกกับดักรายได้ปานกลางของประเทศ การจัดสรรทรัพยากรทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง จะสร้างความยั่งยืนให้กับภาคการเงินไทย
ประวัติการศึกษา
ประวัติการทำงาน
5.รศ. ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ
นักเศรษฐศาสตร์การเมืองคนดัง ด้วยประสบการณ์ที่หลากหลายทั้งในภาครัฐและภาคการศึกษา ซึ่งล่าสุดมีตำแหน่งเป็น คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญ อดีตเคยเป็นกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง แนวคิดสำคัญ คือ การเน้นความสำคัญของการสร้างงานที่มั่นคงและระบบสวัสดิการที่ครอบคลุม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจในอนาคต
การมีธรรมาภิบาลที่ดีและการต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ
ประวัติการศึกษา
ประวัติการทำงาน
6.วิทัย รัตนากร
“วิทัย รัตนากร” จากผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สู่ แคนดิเดต ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ ซึ่งมีแนวนโยบายการเงินที่เป็นธรรม , การพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความครอบคลุมของบริการทางการเงินอย่างยั่งยืน เรียกว่าเป็นอีกนักการเงินเมืองไทย คนสำคัญที่น่าจับตามอง จากวิสัยทัศน์เชิงบวก
ประวัติการศึกษา
ประวัติการทำงาน
7.วิกรานต์ ศุภมงคล
การปรากฎชื่อของ “วิกรานต์ ศุภมงคล” ถือว่าเหนือความคาดหมาย และไม่มีเคยปรากฎในโผ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าแบงก์ชาติ มาก่อน
สำหรับประวัติของแคนดิเดตคนนี้ เป็นนักธุรกิจและนักการเมืองที่มีบทบาทในวงการการเงินและการลงทุนของไทย โดยเฉพาะในด้านอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เป็นประธานกรรมการบริษัทของบริษัท ทู แคปปิตอล จำกัด ,บริษัท ทู เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด มบริษัท ไอยรา แกรนด์ รีสอร์ท จำกัด และ บริษัท ทเวนตี้ทรี จิวเวลรี่ จำกัด
ก่อนหน้าเคยถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลาย ปรากฎเป็นข่าวเมื่อช่วงปี 2563 แต่ในปีถัดมา ศาลได้มีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายดังกล่าว
ประวัติการศึกษา
ประวัติการทำงาน
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney