ตีกลับแผนใช้เงิน 1.57 แสนล้าน “พิชัย” ชี้ซ้ำซ้อน-ไม่ตอบโจทย์แถมเสนอเกินวงเงินบานเบอะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 68 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีหลายหน่วยงานเข้าร่วมประชุม เพื่อนำเสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้วงเงินงบประมาณ 157,000 ล้านบาท โดยที่ประชุมยังไม่มีข้อสรุป และไม่อนุมัติโครงการใด เนื่องจากรมว.คลัง ให้ทุกหน่วยงานนำโครงการมาพิจารณาทบทวนใหม่ เนื่องจากเกือบทุกหน่วยงานที่เสนอแผนใช้เงินเข้ามาสูงเกินกว่างบประมาณที่ตั้งไว้เพียง 157,000 ล้านบาท อีกทั้งหลายโครงการยังมีความซ้ำซ้อน ไม่ตรงกับ 4 ภารกิจการใช้เงิน บางส่วนเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่ไม่ตอบโจทย์ และไม่สามารถเบิกจ่ายเงินได้ทันสิ้นเดือนก.ย.นี้ ตามแผนเร่งด่วน

สำหรับหน่วยงานที่เสนอของบประมาณเข้ามาสำคัญ อาทิ กระทรวงมหาดไทยขอ 21,000 โครงการ วงเงิน 79,900 ล้านบาท กระทรวงคมนาคมขอเข้ามา 80,000 ล้านบาท มีทั้งการซ่อม สร้างถนน ระบบราง และน้ำ กระทรวงพาณิชย์ชงงบกระตุ้นภาคส่งออกและช่วยเหลือผู้รับผลกระทบมาตรการภาษีสหรัฐฯ 3,000 ล้านบาท กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอ 13,000 ล้านบาท เดินหน้าโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง และอื่นๆ รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอโครงการจ้างงานของกรมชลประทาน กรุงเทพมหานครขอ 1,500 ล้านบาท

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า การประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งนี้ ยังไม่ได้มีข้อสรุป ยังไม่ได้อนุมัติโครงการใด เนื่องจากต้องพิจารณาโครงการอย่างรอบคอบ โดยรมว.คลัง ให้กลับไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้โครงการมีประโยชน์สูงสุดสามารถรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุด

สำหรับหน่วยงานที่ได้นำโครงการเข้ามาเสนอเพื่อของบประมาณตามกรอบที่กำหนดไว้ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการท่องเที่ยว ด้านการลดผลกระทบภาคการส่งออก/เพิ่มผลิตภาพ และด้านเศรษฐกิจชุมชนและอื่นๆ ซึ่งสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณ ได้ทำการกลั่นกรองในเบื้องต้นแล้ว แต่ครั้งนี้ก็ยังไม่ได้มีมติในการอนุมัติโครงการใด

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงท่องเที่ยวฯ มีเป้าหมายทำให้ประเทศไทย สามารถโชว์ศักยภาพการจัดคอนเสิร์ตระดับโลกซึ่งจะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตลอดจนแฟนคลับของศิลปินระดับโลกเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย จึงได้เสนอของบประมาณ 2,500 ล้านบาท จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาท เพื่อให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำมาจัดทำโครงการ Amazing Thailand Entertainment Hub ด้วย ซึ่งจะแบ่งย่อยได้ 3 โครงการ คือ 1. ไทยแลนด์ อันสต็อปเอเบิล มิวสิค ซึ่งเป็น เอ็กซ์คลูซีฟ คอนเสิร์ต 2. ไทยแลนด์ มิวสิค เฟสติวัล 3. อินเตอร์เนชั่นแนล มิวสิค คอนเสิร์ต อิน ไทยแลนด์

“หลักการขอเงินจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้ดูจากโครงการที่เป็นนโยบายของรัฐบาลแต่ขอเงินจากงบปกติไม่ได้ ซึ่งภายใต้วงเงินที่กระทรวงท่องเที่ยวร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอไปเพื่อวัตถุประสงค์ด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เคยบอกไปคือ 13,381 ล้านบาท ก็เข้าใจดีว่าจะมีคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการมาพิจารณาอีกครั้งว่าโครงการใดเหมาะสมหรือไม่และจะได้วงเงินเท่าใด เพราะเท่าที่ทราบว่า จากงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาทนี้ ทุกกระทรวงได้เสนอขอวงเงินมาร่วม 400,000 ล้านบาท”

นายสรวงศ์ กล่าวว่า การเสนอของบกระตุ้นเศรษฐกิจของ ททท. หน่วยงานเดียว ได้เสนอขอไป 9,021 ล้านบาท ในจำนวนทั้งหมด ที่แน่ๆ จะมี 3 โครงการที่เชื่อว่า จะถูกนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. ก่อนเป็นลำดับแรก รวมวงเงิน 3,310 ล้านบาท คือ โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง โครงการทำการตลาดท่องเที่ยวผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ในการเสนอขายสินค้าและบริการท่องเที่ยว และโครงการกระตุ้นตลาดต่างประเทศโดยสนับสนุนเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากจีนและตลาดอื่นๆ บินเข้าไทย นอกจากนี้ ได้เสนอขอโครงการปรับปรุงและก่อสร้างห้องน้ำสาธารณะ ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ แหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานและในโบราณสถาน เสนอของบผ่านกรมการท่องเที่ยว 535 ล้านบาท ตลอดจน ได้เสนอของบสำหรับปรับปรุงสนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งอาจจะเป็นสถานที่รองรับการจัดงานคอนเสิร์ตระดับโลกได้ด้วย