รัฐส่งเสน่ห์ปลายจวักไทยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก ชูซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธาน งาน "Thai SELECT Royal Gala Night" ยกระดับอาหารไทยและตราสัญลักษณ์ Thai SELECT สู่สากล เชิดชูแก่นแท้ของความเป็นอาหารไทยที่มีเสน่ห์ และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์สะท้อนถึงวัฒนธรรมไทยอันงดงาม ผ่านประสบการณ์อาหารมื้อพิเศษ ในคอนเซ็ปต์  "THE 5 SPIRITS OF THAI TASTE” โดยสุดยอดเชฟชื่อดังภายใต้โครงการ Thai SELECT ผ่าน 5 คอร์สอาหาร จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า วันนี้ Thai SELECT ได้ก้าวขึ้นสู่เวทีโลกในฐานะสัญลักษณ์ที่ได้รับความไว้วางใจ และเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อน Soft Power ของไทย โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้ปรับโฉมและหลักเกณฑ์การมอบตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เป็น 4 ระดับ ติดดาวเทียบชั้นมิชลินสตาร์ เพื่อสะท้อนถึงคุณภาพระดับสากล รสชาติไทยแท้ เพื่อให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศเข้าใจได้ง่ายขึ้น

ด้านนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) เปิดเผยว่า กรมฯได้เห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมและยกระดับอาหารไทย ซึ่งเป็นซอฟต์พาวเวอร์สำคัญ เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติและมียอดค่าใช้จ่ายด้านอาหารมีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 ของการใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวทั้งหมด

โดยกรมฯได้จัดทำนโยบาย “ดีพร้อม คอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ ประจำปี 2568 โดยในปีนี้เป็นการดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ใน 2 โครงการ คือ1. โครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย เปิดอบรมหลักสูตรที่ทันสมัยนำไปประยุตก์ใช้ต่อยอดประกอบอาชีพได้ อาทิ อาหารไทยต้นตำรับ อาหารไทยสร้างสรรค์เพื่อสุขภาพ ขนมหวานไทยประยุกต์ สตรีทฟู้ด ฟิวชั่นอาหารไทยกับรสชาติสากล ผู้เข้าอบรมจะได้ใบรับรองจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพสาขาอาหาร โดยตั้งเป้าปั้นเชฟอาหารไทยมืออาชีพ 17,000 คน คาดว่าจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3,036 ล้านบาท 

 2. โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย โดยเน้นเพิ่มทักษะและความรู้ อาทิ การคำนวณต้นทุน การบริหารจัดการของเสีย เทคนิคการประกอบอาหารและสร้างสรรค์เมนูใหม่เพื่อนักท่องเที่ยว เพื่อยกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนสู่ร้านอาหารระดับพรีเมียม ตั้งเป้าพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชน 100 ร้าน ทั่วประเทศ คาดว่าจะเกิดจ้างงานและใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น 120 ล้านบาท เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 336 ล้านบาท