พร้อมเป็นหุ้นส่วนใกล้ชิดสหรัฐฯทุกด้าน

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับนายนีล โวลิน รองประธานบริษัท Brunswick Group อดีตรมช.คลังสหรัฐฯ และรักษาการรมว.คลังสหรัฐฯ ในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบามา และน.ส.มิคาเอลา บราวนิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงผู้แทนจากสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าในระดับโลก ภายใต้บริบทของความท้าทายร่วมกัน ทั้งนี้ Brunswick Group เป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกด้านการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนภาคธุรกิจและภาครัฐในการบริหารจัดการนโยบายและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งการหารือครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทย-สหรัฐฯให้แน่นแฟ้นขึ้น

“ได้เน้นย้ำถึงความพร้อมของไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ศูนย์ข้อมูล (Data Center) รวมถึงการเป็นศูนย์กลางการแพทย์ของภูมิภาค ตลอดจนความมั่นคงทางอาหาร และการส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ เพื่อสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ซึ่ง Brunswick Group ให้ข้อเสนอแนะว่า ไทยสามารถใช้จุดแข็งด้านการเป็นฐานการผลิตสินค้าของนักลงทุนสหรัฐฯ ที่มีคุณภาพสูงและส่งออกไปทั่วโลก รวมทั้งความพยายามในการแก้ไขปัญหาทางการค้ากับสหรัฐฯ เป็นข้อสนับสนุนการเจรจา เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมร่วมกัน โดยไทยมีความหวังว่า จะได้หารือกับสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในระยะเวลาอันใกล้นี้”

ด้านนายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) จากแหล่งอลาสกา ของสหรัฐฯ เป็นหนึ่งทางเลือกเพื่อเสริมความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว เพราะไทยต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติถึง 58% ของเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า โดยก๊าซฯ จากอ่าวไทยใช้ผลิตไฟฟ้าได้เพียง 60% และปริมาณการผลิตก๊าซฯ จากอ่าวไทยมีแนวโน้มลดลงในอนาคต ดังนั้น ไทยจึงจำเป็นต้องนำเข้าแอลเอ็นจีเพิ่มขึ้น โดยแหล่งอลาสกา เป็นแหล่งที่มีศักยภาพ ทั้งปริมาณ และเชื่อว่าจะมีต้นทุนราคาก๊าซฯ ที่ต่ำ

“การจัดหาแอลเอ็นจี ประเทศไทยคำนึงถึงราคาเป็นสำคัญ เนื่องจากจะส่งผลต่อค่าไฟฟ้า ยิ่งต้นทุนต่ำ ค่าไฟก็มีราคาถูกลง นอกจากประชาชนจะได้ใช้ไฟฟ้าในราคาที่เหมาะสมแล้ว ยังดึงดูดให้เกิดการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ ทั้งการใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า, AI, cloud service รวมถึงการขยายตัวของ Data Center ดังนั้น โครงการจัดซื้อแอลเอ็นจีดังกล่าวจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพราะมีราคาถูก และการขนส่งใช้ระยะเวลาสั้นกว่าการซื้อจากตะวันออกกลาง อีกทั้งเป็นการเพิ่มแหล่งซื้อ ไม่พึ่งพาแหล่งใดแหล่งหนึ่งเป็นหลัก”