
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานและสักขีพยาน ร่วมกับนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้คนไทยถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมที่ดิน ว่า ปัจจุบันมีคนต่างด้าวเข้ามาถือครองที่ดินในไทย โดยให้คนไทยถือครองที่ดินแทน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของกฎหมาย และยังพบว่า มีการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ เช่น ประกอบธุรกิจที่ต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว หรือธุรกิจที่คนไทยยังไม่พร้อมแข่งขัน อย่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการบิดเบือนกลไกตลาด ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ดังนั้น ทั้ง 2 หน่วยงาน จึงได้ร่วมมือกัน ปิดช่องโหว่ทางกฎหมาย และป้องกันไม่ให้คนต่างด้าวใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ทางกฎหมายนี้
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะส่งต่อรายชื่อนิติบุคคลเสี่ยงให้กับกรมที่ดิน ซึ่งขณะนี้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว พบว่า มีนิติบุคคลที่เสี่ยงเป็นนอมินี จากการที่มีคนต่างด้าวถือหุ้นตั้งแต่ 0.001-49.99% ใน 6 ธุรกิจเสี่ยง 46,918 ราย ในนี้เป็นธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ 6,038 ราย คิดเป็น 55.49% ของธุรกิจเสี่ยงทั้งหมด โดยจะส่งรายชื่อทั้งหมดให้กรมที่ดิน เพื่อพิจารณาประกอบการอนุญาตให้ถือครองที่ดิน และป้องกันไม่ให้คนต่างด้าวเข้ามาถือครองที่ดินต่อไป
“ปัญหาที่เกิดขึ้น คนต่างด้าวมักใช้การถือครองที่ดินในรูปแบบของนิติบุคคล โดยจัดตั้งนิติบุคคลขึ้นมา มีคนไทยเป็นเจ้าของบริษัท มีคนต่างด้าวถือหุ้น แล้วไปซื้อที่ดิน จากนั้นก็นำที่ดินมาใช้ประโยชน์ประกอบธุรกิจต้องห้าม เช่น ธุรกิจเกษตร ธุรกิจที่พัก ธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีผลกระทบทั้งต่อการประกอบธุรกิจของคนไทย และกระทบต่อความมั่นคงด้านที่ดิน แต่ความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยปิดช่องโหว่ของกฎหมาย”
ด้านนายทรงศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน คนต่างชาติสามารถถือครองที่ดินในไทยได้ ถ้าเอาเงินมาลงทุนในไทยตั้งแต่ 40 ล้านบาทขึ้นไป จะถือครองได้ 1 ไร่ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ เมื่อลงทุนแล้ว อาจมีการขายหุ้นกัน หรือมีคนไทยเป็นนอมินี ทำให้ต่างด้าวถือครองที่ดินโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งกรมที่ดินให้ความสำคัญกับการป้องกันการถือครองที่ดินอย่างบิดเบือนมาก และความร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้กรมที่ดินเข้าถึงข้อมูลนิติบุคคล ที่อาจเป็นนอมินี
ส่วนนายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เมื่อนิติบุคคล ซึ่งเป็นคนไทย มีการซื้อขายที่ดินไปแล้ว และได้สิทธิ์ถือครองที่ดิน แต่หลังจากนั้น นิติบุคคลมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น มีคนต่างด้าวเข้ามาถือหุ้น หรือใช้คนไทยถือหุ้นแทน กรมไม่สามารถรู้ได้ ทำให้เกิดช่องโหว่ของกฎหมาย ที่ต่างชาติเข้ามาถือครองที่ดินได้ แต่มีความร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว จะทำให้มีข้อมูลแบบเรียลไทม์ว่านิติบุคคลที่ซื้อที่ดิน และถือครองที่ดิน เป็นบริษัทคนไทยหรือไม่ หรือเป็นบริษัทคนต่างด้าว หรือใช้คนไทยเป็นนอมินีหรือไม่