นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มปตท.ได้จัดตั้งวอร์รูม เตรียมแผนรับมือเศรษฐกิจถดถอย ครอบคลุมการดำเนินงาน 5 ด้าน เนื่องจากปี นี้ มีสัญญาณสถานการณ์พลังงาน ที่มีความผันผวน และเศรษฐกิจโลกที่เผชิญภาวะถดถอย จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ปริมาณการผลิตน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ในตลาดโลก และความต้องการใช้พลังงานที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้เกิดความท้าทายต่อเศรษฐกิจไทยปี นี้ ทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว
กลยุทธ์ 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.ทบทวนกลยุทธ์เดิม พร้อมพิจารณาความท้าทายใหม่ ที่จะเข้ามากระทบ ซึ่งกลยุทธ์กลุ่มปตท. มาถูกทาง และเหมาะสมได้ รับมือกับปัจจัยภายนอก และความท้าทายจากเรื่องสงครามการค้าได้ เพียงบางส่วน แต่บางเรื่องต้องเร่งให้เร็วขึ้น 2. รักษาวินัยการเงิน บริหารต้นทุนการเงิน เสริมสภาพคล่องกระแสเงินสด รักษาระดับเครดิต เรตติ้ง 3.ดูแลคู่ค้า ลูกค้า เพื่อสร้างความต่อเนื่องตลอดวงจรการผลิต เร่งดำเนินโครงการสร้างมูลค่าเพิ่ม 4.ทบทวนความเป็นไปได้ ของโครงการและการลงทุน โดยต้องพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบ รวมถึงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ของแฟลคชิพ 5.สื่อสารและสร้างความเข้าใจการดำเนินธุรกิจ แก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างทั่วถึง
"ตลอดระยะเวลา1ปี หลังปรับกลยุทธ์ มั่นใจว่าจะมาถูกทาง สะท้อนจากผลประกอบการ ที่แข็งแกร่งท่ามกลางความท้าทายจากปัจจัยภายนอก แต่จากสภาวะตลาดที่เศรษฐกิจโลก ยังไม่ดี การเจรจาการค้ายังมีความเสี่ยง ส่งผลให้ปิโตรเคมียังคงขาลง ในปีนี้ กลุ่มปตท. ได้เตรียมรับมือทั้งกระแสเงินสด สภาพคล่อง ปรับปรุงกำไรให้ได้กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (อิบิด้า) รวม20,000 ล้านบาท เพื่อช่วยพยุงให้ผลกระกอบการ สามารถสู้ต่อไปได้ ส่วนกำไรที่จะเพิ่มเข้ามากว่า 20,000 ล้านบาท จะมาจากการมีวินัยทางการเงิน ผ่านการลดค่าใช้จ่ายท่ีตั้งเป้า 10,000 ล้านบาทในปีนี้ เป็นต้น ส่วนความร่วมมือทางการค้าของรัฐบาลไทยกับสหรัฐฯที่จะต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว1 ล้านตันต่อปี รวม15 ปี มูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ระหว่างการเจรจา และไตรมาส1ปีนี้ปตท.มีกำไร23,315 ล้านบาท”