ครม.จบยกแรกแจกเงินดิจิทัล ปรับใช้งบกลาง 1.57 แสนล้านรับมือภาษีทรัมป์

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ครม.จบยกแรกแจกเงินดิจิทัล ปรับใช้งบกลาง 1.57 แสนล้านรับมือภาษีทรัมป์

Date Time: 21 พ.ค. 2568 07:30 น.

Summary

  • ครม.เห็นชอบมติคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ กำหนดกรอบใหม่การใช้เงิน 157,000 ล้านบาท พร้อมวางไทม์ไลน์หน่วยงานต้องยื่นคำขอภายใน 2 สัปดาห์ หรือก่อนสิ้นเดือน พ.ค.นี้ ต้องเป็นโครงการที่มีความพร้อม โดยสำนักงานประมาณจะจัดสรรงบให้ในเดือน ก.ค. 2568 “จุลพันธ์” ยันไม่ยกเลิกแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ขอแจกเมื่อเศรษฐกิจถึงความพร้อม

Latest

ทรู-เอไอเอสทางโล่ง! ควงแขนประมูลคลื่น

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ  ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ  ซึ่งครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและคมนาคม การท่องเที่ยว การลดผลกระทบส่งออกและเพิ่มผลิตภาพ ตลอดจนเศรษฐกิจชุมชนและอื่น ๆ โดยมีเป้าหมายกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ เพื่อรักษาการจ้างงาน และวางรากฐาน

โดยนายกรัฐมนตรี  ได้กล่าวในระหว่างการประชุม ครม. ว่า แผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฯ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยการเร่งรัดการใช้จ่ายผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถดำเนินการได้ โดยจะส่งผลให้เกิดการจ้างงาน กระจายรายได้ และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในทุนมนุษย์และการปรับปรุงกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ให้เอื้อต่อการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพิ่มผลิตภาพแรงงาน และวางรากฐานการพัฒนาในระยะยาว  ภายใต้การติดตามแผนการขับเคลื่อน ฯ  อย่างรอบคอบ เพื่อให้การใช้งบประมาณ เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  ได้กำหนดให้หน่วยรับงบประมาณจัดทำข้อเสนอโครงการ ผ่านรองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เพื่อเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณา พร้อมเสนอโครงการดังกล่าวต่อสำนักงบประมาณภายในเดือนืพ.ค. ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ ภายในเดือนมิ.ย. และสำนักงบประมาณจะพิจารณารายละเอียดโครงการและจัดสรรงบประมาณให้ ภายในเดือนก.ค. 2568

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัตร รมช.คลัง เปิดเผยว่า หน่วยงานที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณไปทำโครงการและนำเสนอเข้าสู่คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใน  2 สัปดาห์จากนี้ ซึ่งคณะกรรมการจะอนุมัติโครงการที่ส่งคำขอมาภายเดือน ก.ค.นี้ สำหรับโครงการที่เสนอของบประมาณเข้ามาจะต้องเป็นโครงการที่มีความพร้อม และเกิดเม็ดเงินเข้าสู่ชุมชน เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจจริงๆ โดยคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้เขียนเงื่อนไขไว้ เพื่อเป็นข้อยืนยันว่าการเบิกจ่ายเงินจะเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและคอยประคับคองมรสุมทางเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนต่อไปได้

“การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท  2 เฟสที่ผ่านมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโตได้ 3% ต่อเนื่อง 3 ไตรมาส ซึ่งเราไม่เห็นแบบนี้มานานแล้วใครจะไปคาดคิดว่าจะสงครามการค้าของการประกาศขึ้นภาษีศุลกากรของสรัฐเกิดขึ้นเมื่อเกิดขึ้นก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ให้ตอบโจทย์กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 น่าจะทรงๆ ยังไม่เจอผลกระทบ ส่วนไตรมาสที่ 3 และ 4  ของปีนี้คาดว่าจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก รัฐบาลจึงวางโครงการที่เสนอเข้ามาจะต้องสามารถทำสัญญาผูกพันงบประมาณให้ได้ภายในไตรมาส 3 ปี 2568 หรือช้าสุดภายใน 30 ก.ย. 2568 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการเบิกจ่ายงบประมาณ แต่ในการผูกงบประมาณไม่ได้หมายความว่างบประมาณจะเบิกจ่ายทั้งหมดภายในเดือนก.ย. แต่รัฐบาลได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อติดตาม”

สำหรับแอปทางรัฐที่มีประชาชนลบแอปพลิเคชันออกไป ต้องสื่อสารให้เข้าใจว่าการให้สวัสดิการของรัฐบาลก็จะผ่านช่องทางนี้ รวมถึงมาตรการอื่นๆ  เช่น บัตรสวัสดิการ (ในอนาคต) มาตรการท่องเที่ยวซึ่งจะใช้แอพทางรัฐเป็นช่องทางหลักในการให้บริการประชาชน

“โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท  จะกลับมาพิจารณาอีกครั้ง หากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวดี วันหนึ่งถ้าถึงความพร้อมเราจะกลับมาพิจารณากันอีกครั้ง ซึ่งต้องประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจรายไตรมาส และผลการเจรจามาตรการภาษีศุลกากรระหว่างไทยกับสหรัฐฯ จะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องการกู้เงิน 500,000 ล้านบาท รัฐบาลยังไม่ได้หารือกัน ตอนนี้จะเอาเงิน 157,000 ล้านบาทไปกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน“


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ