นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติม ร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (พ.ร.บ.รฟม.) ซึ่งการแก้ไข พ.ร.บ. ดังกล่าวมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ รฟม. โดยรัฐบาลนำมาเป็นตัวผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทุกสีทุกเส้นทางให้เป็นจริงได้ภายในเดือน ก.ย.68 นี้ ซึ่งขั้นตอนหลังจากที่ พ.ร.บ. ดังกล่าวผ่านการอนุมัติจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังจากนี้ตามขั้นตอนจะส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาในวาระ 1, 2, และ 3 ตามลำดับ กระทรวงคมนาคมคาดว่าจะทำให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการในส่วนนี้ได้ทันภายในเดือนกันยายนนี้แน่นอน
ขณะเดียวกัน การขับเคลื่อนนโยบาย 20 บาทตลอดสายนั้นจะต้องสอดคล้องกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตั๋วร่วมด้วย ซึ่งพ.ร.บ. ตั๋วร่วมฉบับปัจจุบันมีข้อจำกัดที่กองทุนภายใต้ พ.ร.บ. สามารถรับบริจาคได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถให้กู้ยืมได้ ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไข พ.ร.บ. ตั๋วร่วมด้วยเพื่อให้ รฟม.สามารถกู้ยืมได้ ซึ่งเรื่องนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาวาระ 2 โดยกระทรวงคมนาคมยืนยันว่าการแก้ไข พ.ร.บ. รถไฟฟ้าฯ และ พ.ร.บ. ตั๋วร่วม จะทำไปพร้อมกันเพื่อให้แล้วเสร็จก่อนเดือนก.ย. เพื่อให้การดำเนินนโยบายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายเป็นไปอย่างราบรื่น
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ในประเด็นการนำเงินสะสมของ รฟม. มาใช้ในการดำเนินนโยบาย 20 บาทตลอดสายนั้น เดิมที รฟม. เคยเสนอให้เก็บเงินรายได้ไว้ใช้เองทั้งหมด แต่ทำไม่ได้ การนำเงินมาใช้จะต้องเป็นไปตามกระบวนการจัดสรรงบประมาณ โดยกลไกที่กระทรวงการคลังจะนำเงินที่ รฟม.ส่งเข้าคลังมาใช้ คือปล่อยกู้ให้กับกองทุนภายใต้ พ.ร.บ. ตั๋วร่วม ซึ่งกองทุนนี้จะทำหน้าที่เป็นผู้กู้ แต่จะเป็นหนี้ในบัญชีของ รฟม. โดยเป้าหมายเบื้องต้นของการใช้เงินสะสมก้อนนี้ประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาทจะใช้สำหรับนโยบาย 20 บาทเป็นระยะเวลา 2 ปีแรก