รัฐได้ฤกษ์ 19 พ.ค. ถกรับมือภาษีทรัมป์ ผู้บริโภคห่อเหี่ยวดัชนีเชื่อมั่นวูบต่อต่ำสุดรอบ 7 เดือน

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

รัฐได้ฤกษ์ 19 พ.ค. ถกรับมือภาษีทรัมป์ ผู้บริโภคห่อเหี่ยวดัชนีเชื่อมั่นวูบต่อต่ำสุดรอบ 7 เดือน

Date Time: 16 พ.ค. 2568 07:00 น.

Summary

“คลัง” เคาะ 19 พ.ค. นี้ ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ รับมือภาษีทรัมป์ ด้าน ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 พ.ค. 68 จะมีการประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ในเบื้องต้นจะต้องหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ ก่อน โดยระยะแรกจะใช้ให้ความช่วยเหลือ 6 กลุ่ม คือ 1. ผู้ส่งออกไปสหรัฐฯ 2. ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่เกี่ยวข้องการส่งออกไปสหรัฐฯ 3. ผู้ผลิตที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในไทย 4. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 5. ธุรกิจท่องเที่ยว และเอสเอ็มอีทั่วไป


ทั้งนี้มอบโจทย์ให้สถาบันการเงินรัฐไปช่วยลดดอกเบี้ยให้ 3 กลุ่มนี้ โดยให้ธนาคารออมสิน เตรียมออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) อีก 100,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.01% เพื่อปล่อยให้ธนาคารพาณิชย์นำไปปล่อยกู้ให้กับผู้ส่งออกและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีทรัมป์ ขณะเดียวกันลูกค้าธนาคารออมสิน หากเป็นผู้ส่งออกไปสหรัฐฯ และธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้รับผลกระทบ ได้ธนาคารออมสิน ลดดอกเบี้ยให้ 2-3% เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเม็ดเงินเสริมสภาพคล่องในการทำธุรกิจ


ส่วนธนาคารเพื่อการส่งออกและการนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ ที่มีลูกค้าส่งออก 3,000 ล้าน ให้ไปประเมินผลลูกค้าของเอ็กซิมว่าจะช่วยในรูปแบบใด เพื่อเติมสภาพคล่องให้ผู้ส่งออกในช่วง 3-6 เดือนนี้ เช่น ลดดอกเบี้ยลง เช่น เคยจ่ายดอกเบี้ยเท่าใด ก็ขอให้ปรับลดลง 20% ของวงเงินที่จ่ายในแต่ละงวด โดยให้เน้นกลุ่มที่จะส่งออกไปสหรัฐฯ ในช่วงเดือน มิ.ย. 68 ก่อน เพราะจะครบกำหนด 90 วัน ที่สหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษี ดังนั้นต้องช่วยก่อน ไม่ต้องเปิดคลินิกแก้หนี้ แต่ให้ผู้ส่งออกมาหาแล้วแก้ปัญหาให้เลย โดยไม่ต้องรอว่าสหรัฐฯ จะเก็บ 10% หรือ 36%


“ในเร็วๆ นี้จะหารือธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 แห่ง ที่มีกำไรสูงนั้น โดยจะขอร้องให้นำกำไรบางส่วนมาช่วยเหลือผู้ส่งออกที่เป็นลูกค้า ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ ด้วย แม้กำไรจะลดลงนิดหน่อย แต่ได้ช่วยเศรษฐกิจของประเทศ เช่นเดียวกับธนาคารออมสิน ซึ่งขนาดเล็กกว่าแบงก์พาณิชย์ ยังยอมลดลงกำไรลง เพื่อนำเงินมาช่วยเหลือพยุงเศรษฐกิจ ขณะนี้ไม่มีใครตอบได้ว่านโยบายทรัมป์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ทุกวันนี้ผมต้องตื่นมาฟังข่าวทรัมป์ทุกเช้า ดังนั้นทุกคนต้องตื่นตัว เพื่อเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้โทรศัพท์พูดคุยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา”


ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนเม.ย. 68 ว่า ดัชนีปรับตัวลดลง จากระดับ 56.7 เป็น 55.4 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และต่ำสุดในรอบ 7 เดือนนับตั้งแต่เดือนต.ค. 67 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม อยู่ที่ 49.3 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำ อยู่ที่ 53.0 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 63.9 ปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3


สาเหตุมาจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าจากนโยบายทรัมป์ 2.0 ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ของไทยและทั่วโลกปรับตัวลดลง แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ช้า อีกทั้งราคาพืชผลทางการเกษตรทั้งข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา อ้อย ปรับตัวลงทำให้เม็ดเงินที่จะสะพัดในตลาดสินค้าเกษตรลดลงไปจากเดิม นอกจากนี้ ยังมีความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นการเมืองไทย ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน แม้จะยังไม่มีสถานการณ์ที่บ่งชี้ชัดเจนว่าจะมีผลกระทบรุนแรง สอดคล้องกับการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนที่มีความระมัดระวัง โดยเฉพาะการซื้อสินค้าคงทน ทั้งบ้าน รถ ท่องเที่ยว รวมทั้งดัชนีความสุขในการดำเนินชีวิตก็ปรับตัวต่ำสุดในรอบ 26 เดือน ซึ่งทั้งหมดนี้จึงเป็นตัวชี้ว่า เศรษฐกิจไทยยังไม่โดดเด่น


“ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงอยู่ในขาลง และยังไม่เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่เห็นชัดเจน ส่วนแจกเงินดิจิทัลเฟส 3 ในกลุ่มวัยรุ่น ก็ยกเลิกไปแล้ว”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ