
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) ได้ประกาศขยายระยะเวลาการปฏิบัติตามกฎระเบียบการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอาหารฉบับใหม่ ออกไปอีก 30 เดือน จากเดิมมีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 20 ม.ค.69 เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมอาหารมีระยะเวลาปรับตัว โดยกฎระเบียบนี้ครอบคลุมบัญชีรายชื่อสินค้าอาหารที่กำหนดให้มีการตรวจสอบย้อนกลับ ได้แก่ ชีส (ทำจากนมพาสเจอร์ไรส์) สดนิ่มหรือนิ่มไม่สุก, มะเขือเทศสด, ชีส (ทำจากนมพาสเจอร์ไรส์) สดนิ่มหรือกึ่งนิ่ม, ผลไม้เมืองร้อน, ไข่จากไก่เลี้ยง, ผักอื่นที่ไม่ใช่ผักใบเขียว, เนยถั่ว, ปลาทูน่า, ปลาแมคเคอเรล และปลาหางเหลือ,ง แตงกวา, ปลาเก๋า, ปลาน้ำดอกไม้, ปลากะพง, สมุนไพรสด, ปลาค็อต, ปลาแซลมอน, ปลานิล, ผักใบเขียวสด, แตงโมสด, สัตว์จำพวกกุ้ง เช่น กุ้ง ปู กุ้งมังกร และกุ้งแม่น้ำ, พริกขี้หนูสด, หอยแครง, หอยสองฝา, ถั่วงอกสด เป็นต้น
สำหรับกฎระเบียบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ พ.ร.บ.ปรับปรุงความปลอดภัยด้านอาหาร โดยผู้ที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการผลิต แปรรูป บรรจุ หรือเก็บรักษาสินค้าอาหาร ร้านค้าปลีก และร้านอาหารที่ครอบครองสินค้าอาหารที่อยู่ในบัญชี ทั้งตั้งอยู่ในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ที่ผลิตอาหารสำหรับบริโภคในสหรัฐฯ ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานอาหาร ยกเว้นสถานประกอบการขนาดเล็กบางประเภท เรือประมง และสัตว์น้ำที่มีเปลือกบางชนิด ร้านค้าปลีก และร้านอาหารที่มีขนาดและยอดจำหน่ายตามที่กำหนดในกฎระเบียบ โดยผู้ประกอบการที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบข้างต้นจะต้องจัดทำรหัสรุ่นสินค้าเพื่อตรวจสอบย้อนกลับ แผนการตรวจสอบย้อนกลับ บันทึกขั้นตอนสำคัญเพื่อติดตาม และเก็บรักษาบันทึกข้อมูลหรือจัดส่งให้ทางการสหรัฐฯ ตามที่กฎระเบียบกำหนด
นอกจากนี้ ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ วารสารวิชาการ และข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค เพื่อจัดลำดับความเสี่ยงของอาหารที่จะเกิดอันตราย เช่น ความถี่ของการเกิดการแพร่ระบาด ลักษณะและความรุนแรงของโรค ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปนเปื้อน หรือแนวโน้มที่จุลินทรีย์จะเติบโต เป็นต้น
“การออกกฎระเบียบการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอาหารของสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนให้ปลอดภัยจากการบริโภคอาหารและเพื่อให้ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอาหารที่จะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคให้สามารถนำออกจากท้องตลาดได้อย่างทันท่วงที ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยที่มีการส่งออกสินค้าตามบัญชีนี้ไปสหรัฐฯ จะต้องเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบ เพื่อให้สามารถครองตลาดสหรัฐฯไว้ได้”
ทั้งนี้ ปี 67 ไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าอาหารไปยังสหรัฐฯ ตามบัญชีหลายรายการ เช่น สัตว์จำพวกกุ้ง 11,886 ล้านบาท คิดเป็น 25.10% ของมูลค่าการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ไปโลกที่ 47,362 ล้านบาท หรือส่งออกกุ้งไปสหรัฐฯเป็นอันดับ