
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์รวมทุกยี่ห้อในไทยประจำเดือน มี.ค. 2568 มียอดขาย 55,798 คัน ลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยยอดขายจากตลาดรถยนต์นั่ง 21,054 คัน ลดลง 5.8% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 34,744 คัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 2.9% ส่วนตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขาย 18,355 คัน ลดลง 6.6%
โดยตลาด xEV (รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ประกอบด้วย รถยนต์ไฮบริด หรือ HEV, รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด หรือ PHEV และ รถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ BEV) ในเดือน มี.ค.มียอดขาย 23,123 คัน คิดเป็นสัดส่วน 41.4% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 23.1% โดยรถยนต์ HEV ทำยอดขายได้ 13,196 คัน เติบโตขึ้น 3.6% และยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 8,598 คัน เพิ่มขึ้น 66.9%
สำหรับตลาดรถยนต์รวมทุกยี่ห้อช่วงไตรมาสแรกนี้ (ม.ค.-มี.ค.) มีทั้งสิ้น 153,193 คัน ลดลง 6.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ประกอบด้วยยอดขายจากตลาดรถยนต์นั่ง 58,234 คัน ลดลง 11.2% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ 94,959 คัน ลดลง 3.2% สำหรับตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขาย 49,862 คัน ลดลง 11.6%
โตโยต้ามองว่าตลาดรถยนต์เดือน เม.ย.มีแนวโน้มในการปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย ภายใต้ปัจจัยชี้วัดสำหรับตลาดในเดือน เม.ย.มาจากยอดจองรถยนต์งานบางกอกมอเตอร์โชว์ ในช่วงปลายเดือน มี.ค.ถึงต้นเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 44.8% โดยยอดจองของโตโยต้าทั่วประเทศช่วงมอเตอร์โชว์ มีมากกว่า 21,000 คัน ซึ่งเป็นยอดจองภายในงานมอเตอร์โชว์มากกว่า 9,600 คัน และจากยอดจอง 9,600 คัน อยู่ระหว่างขออนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน โดยคาดว่าจะสามารถส่งมอบรถสู่ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลกว่า 7,600 คันภายในเดือน เม.ย. ทำให้คาดว่าเป็นสัญญาณบวกของตลาดรถยนต์ที่กำลังฟื้นตัว ซึ่งอาจส่งผลให้ยอดขายปรับตัวดีขึ้นในช่วงปีนี้