เปิดขุมทรัพย์ AOT ปล่อยเช่าที่ดิน 2,512 ไร่ ทำเลทอง 46 แปลง รอบ 6 สนามบิน ปั้นฮับการบิน - อสังหาฯ

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิดขุมทรัพย์ AOT ปล่อยเช่าที่ดิน 2,512 ไร่ ทำเลทอง 46 แปลง รอบ 6 สนามบิน ปั้นฮับการบิน - อสังหาฯ

Date Time: 29 เม.ย. 2568 14:41 น.

Video

ธุรกิจลับ Toyota ถ้าไม่ได้ขายรถ หาเงินจากไหน ทำไมถึงยิ่งใหญ่อยู่วันยังค่ำ ? | Digital Frontiers

Summary

  • AOT เปิดขุมทรัพย์ "ที่ดินเปล่า" ปล่อยเช่าเอกชนเข้าลงทุน ในทำเลทอง รอบสนามบิน 6 แห่ง ทั่วประเทศ รวม 46 แปลง 2,512 ไร่ ดันแผนปั้น Aviation Hub แห่งภูมิภาค เศรษฐกิจเกิดใหม่ ผ่านอสังหาฯ ศูนย์การค้า คลังสินค้า โรงแรม สนามกีฬา ที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียม รับเทรนด์ท่องเที่ยวขาขึ้น - ทุนต่างชาติย้ายเข้าไทย

Latest


หากเอ่ยชื่อ AOT หรือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ภาพในหัวของใครหลายคน คงวนเวียนอยู่กับ การเป็นเจ้าของ และ ผู้บริหารจัดการพื้นที่ สนามบินใหญ่ๆ อย่าง สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และ ภูเก็ต ฯลฯ ในฐานะประตูหลักของการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย 

แต่เบื้องหลังของ AOT ที่หลายคนยังไม่รู้ คือ การเป็น “แลนด์ลอร์ด” เจ้าของที่ดินรายใหญ่ระดับประเทศ ทั้งที่เป็นกรรมสิทธิ์และที่เช่าราชพัสดุ อีกจำนวนมหาศาล หลายพันไร่ 

โดยล่าสุด AOT กำลังขยับครั้งใหญ่ ด้วยการประกาศเปิดขุมทรัพย์ ปล่อยเช่าแปลงที่ดินว่าง ทำเลทอง รวมทั้งสิ้น 46 แปลง 2,512 ไร่ โดยรอบ สนามบินใหญ่ 6 แห่ง ทั่วประเทศ ให้นักลงทุนนำไปพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ซึ่งหากตีเป็นเม็ดเงินการลงทุน จะมีมูลค่าสูงถึง 28,800 ล้านบาท ภายใต้เป้าหมาย เพื่อต้องการผลักดัน ให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Aviation Hub แห่งภูมิภาคเอเชีย

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นในภาวะสุญญากาศ แต่เป็นสัญญาณสะท้อนว่า โลกหลังโควิด-19 กำลังฟื้นตัวตามจังหวะ K-Shape ที่ชัดเจนในประเทศไทย ก็คือ ภาคการท่องเที่ยว แม้เศรษฐกิจภาพรวม GDP ไทยปีนี้ อาจจะเติบโตได้เพียง 1.5% เท่านั้น “สนามบิน” ไม่ใช่แค่จุดเชื่อมต่อการเดินทาง แต่กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดเม็ดเงินจากทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเป็นโอกาสของการลงทุนใหม่อีกด้วย 

AOT ปล่อยเช่าที่ดิน รับแผนพัฒนาสนามบิน เพิ่มผู้โดยสาร 244 ล้านคน/ปี 

“ปวีณา จริยฐิติพงศ์” รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เผยข้อมูลสำคัญว่า เมื่อ ปี 2567 สนามบิน ในการดูแลของ AOT ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ,ดอนเมือง ,เชียงใหม่ ,แม่ฟ้าหลวง,เชียงราย ,ภูเก็ต และหาดใหญ่ มีผู้ใช้บริการคนไทย และ คนต่างชาติ เป็นยอดรวมกัน ทั้งสิ้น 119 ล้านคน มากกว่า 732,000 เที่ยวบิน อีกทั้ง ยังมียอดการขนส่งสินค้า 1.42 ล้านตัน 

ขณะเป้าหมายภายในปี 2575 ทุกสนามบินจะมีผู้โดยสารรวมกันมากถึง 244.5 ล้านคน จากแผนพัฒนาและขยายพื้นที่สนามบินใหม่ๆในทุกๆแห่ง เช่น เทอมินัล 3 สนามบินดอนเมือง ,การพัฒนาอาคารเครื่องบินส่วนบุคคล (Private Jet Terminal) และ แผนลงทุนสร้าง Seaplane Terminal แห่งแรกในไทย ที่สนามบินภูเก็ต เป็นต้น 

สะท้อนโอกาสทางเศรษฐกิจ ที่สามารถรองรับการลงทุนในโครงการหลากหลายรูปแบบได้  เช่น ศูนย์โลจิสติกส์ คลังสินค้า โรงแรม ศูนย์ประชุม ศูนย์การค้า โรงพยาบาล สนามกีฬา รวมถึงโครงการด้านที่อยู่อาศัยและเมืองอัจฉริยะสมัยใหม่ 

ขณะปัจจุบัน AOT มีพื้นที่ว่างเปล่า ที่พร้อมนำมาพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้ ทั้งสิ้น 46 แปลง คิดเป็นพื้นที่รวมกว่า 2,512 ไร่ มูลค่าการพัฒนาโครงการกว่า 28,800 ล้านบาท 

โดยพื้นที่ดังกล่าวจะเปิดให้เอกชน เข้ามายื่นความประสงค์ และ คัดเลือก ผ่านการประมูล กรณีที่มีผู้สนใจมากกว่า 1 ราย เพื่อพัฒนาภายใต้รูปแบบสัญญาเช่าระยะยาว เวลาสัมปทานสูงสุดถึง 30 ปี ทั้งบนที่ราชพัสดุ (Leasehold) และที่ดินกรรมสิทธิ์ (Freehold) ประกอบไปด้วย 

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (BKK) : แปลง “Airport Business” 4 แปลง รวม 548 ไร่ (Leasehold) ที่ดินทำเลทองภายในสนามบิน ใกล้ศูนย์ขนส่งสาธารณะ ติดถนนสุวรรณภูมิ 4 และถนนสุวรรณภูมิ 2 เชื่อมต่อกับถนนลาดกระบัง และถนนบางนา-ตราด และห่างจากอาคารผู้โดยสารเพียง 9 นาที แปลง A2, B, C และ D เหมาะสำหรับ Medical Hub & Wellness Center / Convention Hall & Exhibition Center / Hotel & Residential Area และแปลง “ศูนย์บริการและสนับสนุนกิจการท่าอากาศยาน” ที่ดิน (Freehold) 7 แปลง ขนาดรวม 462 ไร่ มีถนนและสะพานยกระดับเชื่อมจากภายนอกเข้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าออกผ่านทางถนนลาดกระบัง-วัดศรีวารีน้อย ได้ด้วยถนน 4 เลน และห่างจากอาคารผู้โดยสารเพียง 15 นาที เหมาะสำหรับ Logistics & Transportation Hub ศูนย์จัดการสินค้าเกษตร Hotel & Residential Area

ท่าอากาศยานดอนเมือง (DMK) : อาคาร Junction Building พื้นที่เชิงพาณิชย์ 12,000 ตร.ม. พื้นที่จอดรถ 3 ชั้น รองรับการใช้งานกว่า 1,000 ช่องจอด และมีโครงการพัฒนาต่อเนื่องเป็นโรงแรม และอาคารจอดรถเพิ่มเติม 

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (CNX) : ที่ดิน 3 แปลง ทำเลทองรวม 19 ไร่ (Leasehold) ติดถนนเชียงใหม่ – หางดง เดินทางถึงอาคารผู้โดยสารเพียง 13 นาที ในย่านชุมชน และสถานีขนส่งจังหวัด เหมาะสำหรับ Hotel & Residential Area / Office & Business Center / Commercial & Lifestyle Complex


ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (CEI) : ที่ดินแปลงสวยขนาดใหญ่ บนที่ตั้งของสนามบิน รวม 762 ไร่ เดินทางถึงอาคารผู้โดยสารภายใน 5 นาที และเดินทางเข้าออกเมืองสะดวก ติดถนนเชื่อมต่อเมืองและสนามบิน เหมาะสำหรับ Hotel & Residential Area / Office & Business Center / Commercial & Lifestyle Complex / Premium Outlet / Logistics & Transportation Hub
ท่าอากาศยานภูเก็ต (HKT) : ที่ดินแปลงเด่น 7 แปลง รวม 192 ไร่ (Freehold) ใกล้ถนนเทพกษัตรี – ในยาง แปลงทำเลทองที่ติดถนนหลักเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ต เดินทางถึงอาคารผู้โดยสารเพียง 6 นาที รองรับกิจกรรมหลากหลายในการพัฒนา อาทิ Hotel & Residential Area / Convention Hall & Exhibition Center / Medical Hub & Wellness Center


ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (HDY) : ที่ดิน 4 แปลงใหญ่ 15 แปลงย่อย รวม 502 ไร่ (Leasehold) ที่ดินให้เลือกพัฒนาที่ตั้งภายในและภายนอกสนามบิน ติดถนนหลักเชื่อมต่อเมืองและสนามบิน เดินทางถึงอาคารผู้โดยสารเพียง 5 นาที เหมาะสำหรับ Hotel & Residential Area / Office & Business Center / Commercial & Lifestyle Complex / Logistics & Transportation Hub

ยุทธศาสตร์เสริม ปั้น Aviation Hub แห่งภูมิภาคเอเชีย ผ่านอสังหาฯ 

ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ ติดถนนสายหลัก ใกล้สนามบิน และเชื่อมโยงด้วยโครงสร้างพื้นฐานระดับประเทศ พื้นที่เหล่านี้จึงพร้อมพัฒนาให้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจใหม่และกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Aviation Hub แห่งภูมิภาคเอเชีย 

โดยโครงการนี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสร้างศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ (New Economic Hub) ในหลายภูมิภาคของประเทศ สร้างการจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อม เสริมสร้างมูลค่าเศรษฐกิจฐานราก และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของท่าอากาศยานไทยในระดับสากลได้ 

ขณะ “ดร.กิริฎา เภาพิจิตร” ผู้อำนวยการโครงการ TDRI Economic Intelligence Service สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยชี้โอกาสอีกด้านเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวว่า ภายใต้โลกมีความไม่แน่นอนสูง จากนโยบายใหม่ของผู้นำสหรัฐฯ นอกจากจะทำให้โลกแบ่งเป็นขั้วๆมากขึ้น 

โอกาสการเคลื่อนย้าย “เงินทุน” ของต่างชาติ ที่ไม่เอาสหรัฐ ไม่เอาจีน หรือ ไม่เอายุโรป ก็อาจเทมาที่ประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นหลัก อย่าง “ประเทศไทย” มากขึ้น 

สะท้อนจากยอดขอรับสิทธิส่งเสริมการลงทุน BOI ของต่างชาติ ที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักๆ ที่ต้องอาศัยการขนส่งทางอากาศ ได้แก่ 1.กลุ่มอิเล็กทรนิกส์ 2.ชิ้นส่วนยานยนต์ และ 3.ไบโอเทคโนโลยี 

นี่ก็สามารถมองเป็นโอกาส นำไปสู่การสร้างศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ควบคู่ไปกับการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันด้านธุรกิจการบินของประเทศได้อีกด้วย ซึ่งการลงทุนที่เหมาะสมในพื้นที่ว่างเปล่าดังกล่าว นับเป็นกลยุทธ์ WIN-WIN ของทั้ง AOT และ นักลงทุน 

ด้าน “ศิโรตม์ ดวงรัตน์” รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด) AOT เผยอัตราค่าเช่าที่ดิน ว่ามีรายละเอียด เริ่มต้นตั้งแต่ 4 บาท/ตารางวา/เดือน ถึง 240 บาท/ตารางวา/เดือน 

พร้อมจัดเตรียมระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็น สิทธิ์การเช่า และรูปแบบธุรกิจที่ยืดหยุ่น เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ ภายใต้ระบบที่โปร่งใส ยืดหยุ่น และเป็นธรรมให้มากที่สุด 

ขณะในมุมมองของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ และฐานะ กรรมการอิสระและประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง AOT อย่าง “ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์” ระบุว่า 3 ปัจจัยในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้สำเร็จ คือ 1. โลเคชั่น ซึ่งทั้ง 6 สนามบิน นับว่าอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ 2.ราคาต้นทุน ถ้าต้นทุนถูก สิ่งที่พัฒนาต้องเหมาะสม ถ้าต้นทุนแพง ต้องหาโปรดักส์ที่คุ้มค่าต่อการลงทุน และ 3.ปัจจัยแวดล้อม เช่น Catchment Area มีคนอยู่ คนใช้จ่าย มากน้อยแค่ไหนในพื้นนั้นๆ 

ซึ่งมองว่า พื้นที่ทั้ง 6 สนามบินนั้น ภาคเอกชนสามารถพัฒนาโครงการได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ศูนย์การค้า คลังสินค้า โรงแรม สนามกีฬา ที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียม เป็นต้น

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ