
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีหนังสือถึงบีโอไอเมื่อวันที่ 4 เม.ย.2568 แจ้งว่า บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด มีพฤติกรรมเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรมฯ และ พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมฯ ดังนั้น คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) จึงได้มีมติเมื่อวันที่ 11 เม.ย.2568 ให้เพิกถอนการใช้สิทธิประโยชน์ของซิน เคอ หยวนเป็นการชั่วคราว โดยไม่กระทบกับสิทธิประโยชน์ที่ได้ใช้ไปแล้ว เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างที่กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานอื่นๆกำลังตรวจสอบรายละเอียดและสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่เหล็กของซิน เคอ หยวนอาจไม่ได้มาตรฐาน อันเป็นสาเหตุทำให้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ถล่มลงมาระหว่างเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.2568
มติดังกล่าวให้มีผลนับแต่วันที่คณะกรรมการมีมติ จนกว่ากระทรวงอุตสาหกรรมจะมีหนังสือแจ้งมายังสำนักงานว่าอนุญาตให้บริษัทกลับมาดำเนินการผลิตได้ และหากในที่สุดกระทรวงอุตสาหกรรมเพิกถอนหนังสือรับรองการประกอบกิจการโรงงานของซิน เคอ หยวน บีโอไอจะนำเสนอคณะกรรมการบีโอไอเพื่อดำเนินการต่อไป โดยซิน เคอ หยวนได้รับการส่งเสริมในกิจการผลิตเหล็กแท่ง (Billet) ตามบัตรส่งเสริมเลขที่ 1235 (2)/2556 ลงวันที่ 19 ก.พ.2556
“ที่ผ่านมาบีโอไอไม่ได้นิ่งนอนใจ เข้าตรวจสอบโรงงานของบริษัท ซิน เคอ หยวน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2568 เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง และมีหนังสือแจ้งเตือนให้บริษัทปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในบัตรส่งเสริม รวมทั้งต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด จากนั้นได้นัดประชุมร่วมกันระหว่างบีโอไอและกระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบ ก่อนจัดประชุมบอร์ดบีโอไอเพื่อดำเนินการในทันที”
สำหรับประเด็นการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเหล็ก บีโอไอได้ยกเลิกการส่งเสริมเหล็กเส้นสำหรับงานก่อสร้าง เช่น เหล็กเส้น และเหล็กข้ออ้อย มาตั้งแต่ปี 2543 ส่วนผลิตภัณฑ์เหล็กอื่นๆ ได้เฝ้าระวังและหารือกับกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือกับภาวะผลิตภัณฑ์เหล็กล้นตลาด และปัญหาการทุ่มตลาดในอุตสาหกรรมเหล็กแผ่นรีดร้อนและเหล็กก่อสร้าง
และในปี 2567 ที่ผ่านมา บอร์ดบีโอไอได้ประกาศยกเลิกการส่งเสริมการผลิตเหล็กหลายประเภท เช่น เหล็กแท่ง เหล็กลวด เหล็กแผ่นรีดร้อน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะการแข่งขันอย่างรุนแรง
อีกทั้งได้ลดสิทธิประโยชน์ เหลือเฉพาะสิทธิที่มิใช่ภาษี (Non-Tax) สำหรับกิจการผลิตเหล็กทรงแบน (เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นไร้สนิมรีดร้อนหรือรีดเย็น เหล็กแผ่นหนา เหล็กแผ่นเคลือบ) และกิจการผลิตเหล็กทรงยาว (เหล็กรูปพรรณ เหล็กเพลา ลวดเหล็ก) เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กไทย และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการในประเทศ.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่