มีเงิน 4 พันล้าน ก็ซื้อไม่ได้! “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” อนุสรณ์สถาน วิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 40 บนคดีพิพาท

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

มีเงิน 4 พันล้าน ก็ซื้อไม่ได้! “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” อนุสรณ์สถาน วิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 40 บนคดีพิพาท

Date Time: 2 เม.ย. 2568 14:51 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

คดีความ-ทุนสามานย์-ทางออกที่ปิดตาย กับอนาคตที่ยังไม่แน่นอนของ “สาทร ยูนีค” อนุสรณ์สถาน วิกฤติต้มยำกุ้งตึกสูงตระหง่านกลางเมือง ที่ "แผ่นดินไหว" ยังเอาไม่ลง! ทายาทเจ้าของตึก ตอบชัด ยังไม่ได้ขาย

Latest


“สาทร ยูนีค ทาวเวอร์”  หนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุค 90s (ตึกเริ่มสร้าง ปี 1990 และ หยุดชะงักช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งปี 1997) ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความล้มเหลวจากวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ปี 2540 กลายเป็นตึกสูงร้างที่ถูกทิ้งไว้กลางใจเมืองกรุงเทพมหานครมานานกว่าสองทศวรรษ และแม้ว่ามูลค่าที่ดินและศักยภาพในการพัฒนาย่านสาทรจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตึกนี้ยังคงติดพันกับคดีพิพาททางกฎหมายที่ทำให้การเปลี่ยนมือเจ้าของเป็นไปได้ยาก แม้จะมีข่าวลือเรื่องการขายในราคาสูงถึง 4,000 ล้านบาทก็ตาม

จากตึกหรู สู่ตำนานตึกหลอนแห่งสาทร

สาทร ยูนีค ทาวเวอร์ ถูกออกแบบให้เป็นคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง ด้วยจำนวนชั้นถึง 49 ชั้น ตั้งอยู่บนทำเลทองใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา โดยเริ่มก่อสร้างในช่วงปี 2533 และเกือบจะแล้วเสร็จเมื่อเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 ส่งผลให้โครงการต้องหยุดชะงักกลางคัน และกลายเป็นอาคารร้างตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ทั้งนี้ ตลอดช่วงเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา สาทร ยูนีค ทาวเวอร์ กลายเป็นแหล่งรวมเรื่องราวปริศนาและข่าวฉาวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ลักลอบขึ้นไปถ่ายภาพวิวเมือง ตำนานเกี่ยวกับความลี้ลับของอาคาร หรือการเป็นฉากหลังของภาพยนตร์ดังอย่าง เพื่อน...ที่ระลึก 

ขณะ เหตุแผ่นดินไหวในประเทศไทยล่าสุด (28 มี.ค.2568) ที่ผ่านมา ตึกนี้ถูกพูดถึงอีกครั้งว่า แม้จะร้างมานาน แต่โครงสร้างยังคงแข็งแกร่งและไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ สิ่งเดียวที่ดูเหมือนจะเอาลง คงมีแค่ “ต้มยำกุ้ง”

มูลค่า 4,000 ล้าน กับปัจจัยที่ต้องพิจารณา

ข่าวลือเกี่ยวกับการขายตึกนี้ในราคา 4,000 ล้านบาท ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนและประชาชนทั่วไป อย่างไรก็ตาม แผนกวิจัยและการสื่อสารของ คอลลิเออร์ส ประเทศไทย วิเคราะห์ว่า มูลค่าของสาทร ยูนีค ทาวเวอร์ ไม่สามารถพิจารณาเพียงแค่ตัวเลขของราคาที่ดินหรือขนาดพื้นที่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ได้แก่

  • ทำเลที่ตั้ง: ย่านสาทรเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่มีมูลค่าสูงของกรุงเทพฯ และมีแนวโน้มที่มูลค่าของที่ดินจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  • โครงสร้างอาคาร: แม้จะมีการออกแบบให้รองรับมาตรฐานความปลอดภัยและยังคงแข็งแกร่ง แต่ต้นทุนในการรีโนเวทหรือทุบแล้วสร้างใหม่ก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องพิจารณา
  • ข้อจำกัดทางกฎหมาย: คดีพิพาทที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้กระบวนการซื้อขายยังติดขัด และไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของอาคาร

ทั้งนี้ แม้ทำเลจะมีศักยภาพในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรู ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ โรงแรม หรือสำนักงาน แต่นักลงทุนจำเป็นต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทั้งในเรื่องการปรับปรุงอาคาร และค่าใช้จ่ายทางกฎหมายก่อนตัดสินใจเข้าซื้อ รวมไปถึง ปัญหาเรื่องใบอนุญาต ที่หมดไปแล้ว อุปสรรคทางเข้า-ออก 

“ขณะนี้ใบอนุญาตโครงการนี้ หมดอายุไปแล้ว หากคนซื้อไปเพื่อพัฒนาต่อ ต้องทำเรื่องขออนุญาตใหม่ อีกทั้ง น่าจะมีปัญหาทางเข้า-ออก โครงการ ประเมินหากถูกซื้อด้วยราคา 4,000 ล้านบาทจริง แล้วก่อสร้างต่อไม่ได้ ทางเดียวคือต้องทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่ ซึ่งในแง่การลงทุน มองยังไงก็ไม่คุ้ม เพราะเท่ากับราคาที่ดินกระโดดไปอยู่ที่ 3.1 ล้านบาทต่อตารางวา ”

ภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุกับ Thairath Money 

เปิดข้อเท็จจริงจากเจ้าของ ยืนยัน ยังไม่มีการขาย “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์”


ในขณะที่มีข่าวแพร่สะพัดว่าตึกนี้ถูกขายไปแล้ว โดยนายหน้าหญิงคนหนึ่ง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก  ล่าสุด ทายาทของเจ้าของโครงการได้ออกมายืนยันผ่านโซเชียลมีเดียว่า ไม่มีการประกาศขายแต่อย่างใด และยังมีข้อพิพาททางกฎหมายที่ต้องสะสางก่อนจะสามารถดำเนินการใด ๆ กับตัวอาคารได้

" ตั้งแต่ข่าวเรื่องประกาศขาย คุณพ่อ (อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ) ไม่ได้เป็นผู้ประกาศขายนะครับ

ตึกนี้มีข้อพิพาทและคดีความมากมายหลายอย่าง กระบวนการทางกฎหมายที่ฉ้อฉลยึดทรัพย์ภาคเอกชนผ่องถ่ายไปองค์กรข้ามชาติแล้วฟอกทรัพย์กลับมาเข้ามือกลุ่มทุนสามานที่เป็น deep stage ของประเทศนี้ คุณพ่อและคุณแม่ต่อสู้กับกระบวนการฉ้อฉลปล้นชาตินี้มายาวนานร่วม 30ปี

Fact ที่หลายคนอาจไม่รู้ ห้องชุดในตึกนี้ได้ขายไปแล้วมากกว่า 90% ตั้งแต่เปิดขายเมื่อ30กว่าปีที่แล้ว กลุ่มทุนสามานนี้ไม่ได้ปล้นเฉพาะ Developer แต่ปล้นคนซื้อทุกคน โอนถ่ายทรัพย์ไปมาเพื่อเขย่าให้ตึกนี้กลายเป็นตึกเปล่าที่ยังไม่มีใครซื้อ ซื้อถูก-ฟอกขาว-เขย่าให้เป็นตึกเปล่า นี่คือสิ่งที่ทุนสามานทำกับทุกตึกทุกอาคารที่โดนโยนลงหม้อต้มยำกุ้ง 

เรื่องราวการต่อสู้ของท่านทั้ง2 ยังคงดำเนินอยู่ และผมเชื่อว่าจะดำเนินต่อไปตราบเท่าที่ท่านยังมีลมหายใจอยู่ 

การประกาศขายไม่ได้มาจากคุณพ่อ และท่านไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับใครเกี่ยวกับตึกนี้ในการขาย ช่วงระยะหลังท่านสุขภาพไม่ค่อยดี ท่านพักผ่อนเสียเป็นส่วนใหญ่ครับ

โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว ถ้าปัญหาตึกนี้มันจบง่าย มันคงไม่ยืนเป็นอนุสาวรีย์ต้มยำกุ้งมานาน 30ปี "

อนาคตของ “ตำนาน” ที่ยังคงรอคำตอบ

ปัจจุบัน สาทร ยูนีค ทาวเวอร์ ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของวิกฤติต้มยำกุ้งที่ทิ้งร่องรอยไว้บนเส้นขอบฟ้ากรุงเทพมหานคร อนาคตของอาคารหลังนี้จะลงเอยอย่างไร ยังคงเป็นปริศนา ไม่ว่าจะเป็นการบูรณะใหม่ การพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์สุดหรู หรืออาจถูกปล่อยทิ้งร้างต่อไปจนกว่าข้อพิพาททางกฎหมายจะได้รับการแก้ไข

สิ่งเดียวที่สามารถทำให้ตึกนี้ล่มลงมาได้ อาจไม่ใช่โครงสร้างของมัน แต่อาจเป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบสามทศวรรษก่อน ที่ยังคงหลอกหลอนให้มันไม่สามารถเดินหน้าไปสู่อนาคตได้เสียที

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ