นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารและพัฒนาหลักทรัพย์ของรัฐที่มีนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน เพื่อพิจารณาการขายหุ้นที่กระทรวงการคลังไม่มีความจำเป็นต้องถือครองอีกต่อไป เพื่อปรับพอร์ตการถือหุ้นของกระทรวงการคลังให้มีมูลค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งการขายหุ้นนั้น จะต้องพิจารณาประเมินราคาในปัจจุบันและอนาคต หากเห็นว่าราคาในอนาคตไม่ปรับขึ้น ขณะที่กระทรวงการคลังมีภาระดูแล ก็จะพิจารณาขายออกไป ส่วนหุ้นที่สร้างรายได้ หรือเป็นหุ้นนโยบาย ในหลักการก็ควรถือต่อไป
“ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้ทยอยขายหุ้นออกไปแล้วบางส่วน และเตรียมที่จะตัดขายออกไปอีก 10 แห่ง เพื่อปรับพอร์ตหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ทั้งในที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์และไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้การบริหารพอร์ตหุ้นของกระทรวงการคลังมีมูลค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด”
ทั้งนี้ปัจจุบัน หลักทรัพย์ที่กระทรวงการคลังถือครองทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ ไม่นับรวมรัฐวิสาหกิจ 117 หลักทรัพย์ แบ่งเป็นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 33 หลักทรัพย์ ไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 41 แห่ง และอีก 41 แห่งเป็นหลักทรัพย์ที่ได้มาโดยนิติเหตุ มูลค่ารวมหลักทรัพย์ทั้งหมดอยู่ที่เกือบ 400,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นของกองทุนวายุภักษ์กว่า 340,000 ล้าน ที่เหลือเป็นหลักทรัพย์อื่นๆ