
ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) โดย “เกรียงไกร เธียรนุกุล” ระบุว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 อยู่ในภาวะ เผชิญความเสี่ยงสูง
หลังจากสำนักวิจัยในต่างประเทศปรับลดประมาณการจีดีพีไทยลงเหลือ 2.6% จากเดิมอยู่ที่ 2.7% ท่ามกลางความเสี่ยงจากนโยบายการค้า และแรงกดดันต่อภาคการผลิตที่จะยังมีต่อเนื่อง ส่วนอุปสงค์ภายในประเทศยังเปราะบาง
สอดคล้องกับมุมมองของธนาคารแห่งประเทศไทยที่นำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทั้งนี้ กกร.คาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 2568 อาจขยายตัวอยู่ในกรอบ 2.4-2.9% ส่งออกเติบโตต่ำ 2.5%
หลังจาก มีความกังวลต่อการดำเนินนโยบายจัดเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมการส่งออกของไทย โดยล่าสุดสหรัฐฯ มีการประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจาก 10% เป็น 25% และยกเลิกข้อยกเว้นรายประเทศ ข้อตกลงตามโควตา รวมทั้งยกเลิกการยกเว้นภาษีแบบรายสินค้า โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2568 ทำให้ผู้ประกอบการไทยที่มีการส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมไปยังสหรัฐฯ จะต้องแบกรับภาระภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งเศรษฐกิจไทย ส่งสัญญาณอ่อนแรงลง ชัดเจน ตั้งแต่ตัวเลข จีดีพีไตรมาส 4/2567 ที่ขยายตัวเพียง 3.2% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ราว 4.0% ส่งผลให้ทั้งปี 2567 จีดีพีขยายตัวเพียง 2.5% ต่ำกว่าระดับศักยภาพ
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ผลสำรวจหัวข้อ “คนไทยกับภาวะเศรษฐกิจ” ของสวนดุสิตโพล สะท้อนความเป็นอยู่ของประชาชน โดยพบว่า ภายใต้กลุ่มตัวอย่าง 1,141 คน มองสภาพเศรษฐกิจไทย ณ วันนี้ ส่งผลกระทบทำให้ใช้จ่ายเดือนชนเดือน ต้องระมัดระวังการใช้จ่าย 51.01%
ขณะปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากที่สุด คือ เรื่องค่าครองชีพ คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย กำลังซื้อในประเทศไทยไม่ขยายตัว 82.94% ทั้งนี้ คนไทยยังเห็นว่ามาตรการของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้นยังไม่มีประสิทธิภาพ 69.50% โดยนายกรัฐมนตรีและฝ่ายรัฐบาลควรเข้ามาเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน
ซึ่งผลโพลดังกล่าว สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางราคาสินค้าและบริการที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย เป็นสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจในรากหญ้า แม้รัฐบาลพยายามเร่งอัดฉีดเงินหมื่นเข้าไปกระตุ้น แต่ก็ยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้ตามเป้า นี่คือความท้าทายของรัฐบาลเพื่อไทยที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างชื่อจากความสำเร็จด้านเศรษฐกิจ.
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney