อึ้ง! เบิกค่ารักษาทะลุแสนล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการและครอบครัวของประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีงบ 67 ที่มียอดสูงถึง 106,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 10,000 ล้านบาท จากปี 66 ที่ 96,507 ล้านบาท และยังถือเป็นปีแรกที่ค่ารักษาพยาบาลในระบบราชการสูงขึ้นทะลุ 100,000 ล้านบาท โดยมีสาเหตุสำคัญ คือ ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มตัว ทำให้มีจำนวนผู้ใช้สิทธิเพิ่ม จนทำให้ยอดเบิกจ่ายค่ารักษาสูงขึ้นตาม

สำหรับจำนวนผู้ใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นนั้น มาจากทั้งในส่วนของตัวข้าราชการเอง และครอบครัว หรือผู้เกี่ยวข้อง โดยข้าราชการ 1 คน จะมีผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับสิทธิรักษาพยาบาล เช่น พ่อ แม่ สามีหรือภรรยา และลูก เฉลี่ยครอบครัวละ 5-6 คน ทำให้ล่าสุดมีผู้ใช้สิทธิเบิกค่ารักษามากถึง 4.8 ล้านคน แบ่งเป็นการใช้สิทธิเบิกค่ารักษาของข้าราชการโดยตรง 2.4 ล้านคน ที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 2.4 ล้านคนเป็นคนในครอบครัว

ส่วนการเข้าสู่สังคมสูงวัยถือเป็นโจทย์ใหญ่ของสังคมไทย เพราะคนไทยมีอายุไขยืนขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 79-80 ปี และเมื่ออายุยืนมากขึ้นก็มักจะมีโรคภัยไข้เจ็บตามมา โดยเฉพาะโรคเรื้อรัง ที่ต้องรักษาต่อเนื่อง ทำให้สถิติการใช้สิทธิรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะอัตราค่าบริการทางการแพทย์ที่สูงขึ้น ทั้งจากค่ายารักษา โรคภัยใหม่ๆ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ทำให้เงินเฟ้อด้านค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้น ประกอบกับ ยังพบการใช้ช่องโหว่ในการฉ้อฉล ทุจริตเบิกค่าการรักษาพยาบาลเกินจริง

ทั้งนี้ ปัญหาการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสูงถือเป็นเรื่องใหญ่ของรัฐบาล เพราะตัวเลขตลอด 5 ปีหลังนี้ หรือ ปี 63-67 มีการเร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปี 63 พบว่า มีการเบิกจ่ายค่ารักษาในระบบราชการที่ 76,023 ล้านบาท ต่อมาปี 64 เพิ่มขึ้นเป็น 79,725 ล้านบาท, ปี 65 ขยับขึ้นแตะ 90,699 ล้านบาท, ปี 66 เพิ่มเป็น 96,507 ล้านบาท จนล่าสุดปี 67 ก้าวขึ้นมาทะลุ 100,000 ล้านบาท

ดังนั้น ที่ผ่านมา รัฐบาลมีความพยายาม และแนวคิดหลากหลายเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เช่น การเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาเพื่อป้องกันการฉ้อฉล มีแนวคิดให้บริษัทประกันดูแลระบบประกันสุขภาพ โดยรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณไปจ่ายเป็นเบี้ยประกันเป็นรายปี และให้บริษัทประกันเข้ามาดูแล บริหารจัดการสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลแทน แต่ทำให้เกิดแรงต่อต้านอย่างมาก จากข้าราชการผู้ได้สิทธิ ทั้งข้าราชการรุ่นใหม่ หรือข้าราชการที่เกษียณอายุแล้ว เพราะเกรงว่าจะเสียสิทธิการรักษาหรือได้รับน้อยลง