“เอ็มจีซี-เอเชีย” รุกสู่ความยั่งยืน สยายปีก 4 กลุ่มธุรกิจย้ำผู้นำไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้
Date Time: 28 ก.พ. 2568 08:00 น.
“Summary“
“เอ็มจีซี-เอเชีย” หนึ่งในกลุ่มทุนยานยนต์รายใหญ่ของไทยก้าวสู่ปีที่ 25 ของการดำเนินธุรกิจ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งขององค์กรและความสามารถในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในการเป็นผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้แบบครบวงจร ตั้งเป้าเพิ่มความได้เปรียบสูงสุดให้ธุรกิจในกลุ่มการเงิน, ประกันภัย และยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ ๆ
นายสัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ “เอ็มจีซี-เอเชีย” (MGC-ASIA) หนึ่งในกลุ่มทุนยานยนต์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่าในปี 2568 เอ็มจีซี-เอเชีย ก้าวสู่ปีที่ 25 ของการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งขององค์กรและความสามารถในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในการเป็นผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้แบบครบวงจร
ตั้งเป้าเพิ่มความได้เปรียบสูงสุดให้ธุรกิจในกลุ่มการเงิน, ประกันภัย และยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อขับเคลื่อน MGC-ASIA สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนในอนาคต สอดรับกับกลยุทธ์การขับเคลื่อนใน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail): บริษัทฯ ยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดรถพรีเมียม เพื่อครองอันดับ 1 โดยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลากหลายแบรนด์ดังอย่างต่อเนื่อง, 2. กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขาย, 3. กลุ่มธุรกิจให้บริการรถเช่าและพนักงานขับ ทั้งระยะสั้น ระยะยาว และ 4. กลุ่มธุรกิจอื่น ๆ อาทิ ธุรกิจบริการทางการเงินอย่างครบวงจรและให้บริการธุรกิจบริการประกันภัยชั้นแนวหน้า
พร้อมวางกลยุทธ์การขับเคลื่อนทางธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโต 4 กลุ่มธุรกิจสู่ความยั่งยืน ผ่าน 3Ps คือ PEOPLE: มุ่งพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถสูง PROCESS: พัฒนากระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และ PROFIT: ขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน
“โดยแผนกลยุทธ์และเป้าหมายการเติบโตดังกล่าว สอดคล้องกับเป้าพันธกิจ 3 ปี (2568-2570) ของ MGC-ASIA ที่จะนำพาบริษัทฯ สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนภายใต้วิสัยทัศน์ที่ต้องการเป็นผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้แบบครบวงจร ภายใต้ระบบนิเวศทางธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต”
สำหรับผลการดำเนินงานของ MGC-ASIA ในปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 20,334 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 145.60 ล้านบาท และ EBITDA ที่ระดับ 1,631 ล้านบาท
Author
