
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า เดือนม.ค.68 การส่งออก ยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง มีมูลค่า 25,277 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 13.6% เมื่อเทียบกับเดือนมค.67 และเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 การนำเข้า 27,157.2 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 7.9% ขาดดุลการค้า 1,880.2 ล้านเหรียญฯ
แนวโน้มการส่งออกไตรมาสแรก คาดว่า จะยังขยายตัวเป็นบวก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจโลกที่เติบโต ความขัดแย้งในยูเครนและตะวันออกกลางเริ่มคลี่คลาย ดัชนีราคาอาหารโลกปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนความต้องการสินค้าเกษตรและอาหารเพิ่มขึ้น และมีการส่งออกไปสหรัฐฯ ทั้งจากการทดแทนสินค้าจากจีน และผู้นำเข้าสหรัฐฯ มีการเร่งนำเข้า เพราะไม่รู้ว่านโยบาย ทรัมป์ 2.0 จะเป็นอย่างไร ส่วนทั้งปี ยังคงยืนยันเป้าส่งออกที่ 2-3%
“ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ความไม่แน่นอนของนโยบายทรัมป์ 2.0 ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะใช้กับทุกสินค้า หรือทุกประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ ส่วนที่ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ อันดับที่ 11 ของโลก และอันดับ 2 ในอาเซียน ก็ต้องจับตาดูว่าจะเป็นอย่างไร คาดว่า เม.ย.นี้จะเห็นภาพชัดเจน แต่ไทยได้เตรียมรับมือไว้แล้ว ทั้งการหาทางลดการขาดดุลการค้า เช่น เพิ่มนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯที่เรานำเข้าอยู่แล้ว”
ด้านนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า การส่งออกเดือนม.ค.68 ที่เพิ่มขึ้นมาก มาจากการเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ เพื่อรองรับความเสี่ยงเทรดวอร์ โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ทำให้การส่งออกไทยไปสหรัฐฯขยายตัวสูงถึง 22.4% แต่ระยะต่อไปยังคงต้องเฝ้าระวังเทรดวอร์ ซึ่งรัฐบาลต้องหารือกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมในการเจรจา