"นายกฯอิ๊งค์" สั่งรวมพลังกู้เศรษฐกิจ "คลัง" อัดยากระตุ้นเพิ่มดันจีดีพีไทยปีนี้โต 3.5%

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

"นายกฯอิ๊งค์" สั่งรวมพลังกู้เศรษฐกิจ "คลัง" อัดยากระตุ้นเพิ่มดันจีดีพีไทยปีนี้โต 3.5%

Date Time: 19 ก.พ. 2568 10:03 น.

Summary

"นายกฯอิ๊งค์" วาดฝันดันไทยปีนี้โต 3.5% แต่จะทำงานฝั่งเดียวไม่ได้ ธปท.-ธนาคารพาณิชย์ต้องช่วยรัฐบาล สั่งทุกกระทรวงช่วยกันทำงาน เพราะนโยบายเดียวดันจีดีพีโตไม่ได้ ด้านคลัง รับลูกจีดีพีปีนี้ เกิน 3% ชูดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

เมินตัวเลขสภาพัฒน์ "นายกฯอิ๊งค์" วาดฝันดันไทยปีนี้โต 3.5% แต่จะทำงานฝั่งเดียวไม่ได้ ธปท.-ธนาคารพาณิชย์ต้องช่วยรัฐบาล สั่งทุกกระทรวงช่วยกันทำงาน เพราะนโยบายเดียวดันจีดีพีโตไม่ได้ ด้านคลัง รับลูกจีดีพีปีนี้ เกิน 3% ชูดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3-ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า ตามที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ประเมินแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2568 ที่ 2.8% ขณะที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ 3% และพยายามดันให้ไป 3.5%นั้น มั่นใจว่าในเดือนที่เหลือของปีนี้ จะผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลจะขอความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะทำงานและแก้ปัญหาไปด้วยกัน โดยขอให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ที่ดูแลมาตรการทางการคลัง ประสานการทำงานกับ ธปท.อย่างใกล้ชิด เพราะทุกส่วนมีส่วนสำคัญอย่างมาก ทำอยู่ฝั่งเดียวไม่ได้ต้องช่วยกัน

“ตัวเลขทางเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ของปี 2567 เติบโตขึ้นเกือบทุกมิติ แต่ภาคลงทุนของเอกชนหดตัว ปัจจัยที่สำคัญ เช่น ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีที่มีสัดส่วน 75% ของประเทศ ได้รับการปล่อยสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์น้อย โดยจะเห็นได้ว่าเป็นเวลานับ 10 ปีที่การพัฒนาธุรกิจต่างๆของภาคเอกชนลดน้อยลง บางอุตสาหกรรมที่เก่าไปแล้ว ไม่ได้รับเงินสินเชื่อในการพัฒนา ภาครัฐพยายามทำทุกเรื่องเพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระตุ้นให้ภาคเอกชนมีการลงทุนเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน เรื่องการปล่อยสินเชื่อให้ภาคธุรกิจ ทางรัฐบาลต้องคุยกับ ธปท.เพื่อร่วมมือกัน”

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รัฐบาลพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่าง ทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง ภาคเอกชนเองต้องดูด้วยว่าการลงทุนเพิ่มได้อย่างไรบ้าง ต้องช่วยด้วยทุกภาคส่วนจริงๆ มันไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งจะเกิดขึ้น เมื่อวานนี้หรือเมื่อปีสองปีที่แล้ว แต่เกิดเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จะต้องช่วยทุกฝ่าย จากที่ตนเองได้เดินทางไปต่างประเทศ ก็พยายามดึงการลงทุนมาในประเทศ และความจริงแล้วเศรษฐกิจแย่พักใหญ่แล้ว การผลักดันทุกส่วนสำคัญมาก เราไม่สามารถทำหนึ่งอย่างแล้วเศรษฐกิจดีทันที นโยบายภาครัฐไม่ได้ออกมาแค่หนึ่งนโยบายแล้วจะกระตุ้นการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ได้ จะต้องขอความร่วมมือทุกกระทรวง ทุกฝ่ายช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไทยไปพร้อมๆกัน

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า คลังยังมั่นใจว่าจีดีพีปีนี้จะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 3% โดยนอกจากโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะลงสู่ระบบเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ถึง 0.2% คณะอนุกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เตรียมมาตรการและกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มได้อีก 0.5% และพยายามดันจีดีพีในภาพรวมให้ถึง 3.5% และปีนี้ยังมีกลไกการนำยอดการซื้อสินค้ามาลดหย่อนภาษี หรือ easy e-receipt เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ส่วนที่ สศช.เสนอให้แบ่งงบประมาณจากโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 157,000 ล้านบาท ที่จะทำในรอบ 3 มาทำโครงการบริหารจัดการน้ำทั่วประเทศ นายจุลพันธ์กล่าวว่า โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะทำให้มีเม็ดเงินลงถึงประชาชน เมื่อนำไปจับจ่ายใช้สอยจะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง ส่วนโครงการที่ผ่านการจัดซื้อจัดจ้างกว่าเม็ดเงินจะลงไปในระบบมีความล่าช้า แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ดี หากจะมีความจำเป็นในการแบ่งสัดส่วนออกไปก็คุยกันได้ โดยรัฐบาลกำลังพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม คิดอยู่ว่ากลไกในการใช้เม็ดเงินจากจุดไหนและวิธีการอย่างไร

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า กรณีที่ สศช.แนะนำว่าจะต้องออกแพ็กเกจกระตุ้นการลงทุนออกมาในปีนี้เพิ่มเติม เรื่องนี้เห็นตรงกันกับรัฐบาล เพราะการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญกับการวางโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาว จึงเป็นที่มาของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการออกนโยบายสำคัญ เช่น การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงิน หรือสถานบันเทิงครบวงจร เช่นเดียวกับการส่งเสริมตลาดยานยนต์ในไทย ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังเตรียมปรับปรุงโครงสร้างภาษี และการดึงดูดแหล่งเงินใหม่ๆ เข้ามาลงทุนในประเทศ.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ