
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานสถานการณ์ราคาที่อยู่อาศัย ไตรมาส 4 ปี 2567 โดยพบว่าบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ยังคงมีราคาปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยราคาบ้านจัดสรรใหม่ในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 2.3% ขณะทำเลที่บ้านเดี่ยวมีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด ได้แก่ ย่านมีนบุรี–หนองจอก–ลาดกระบัง ในกลุ่มราคาเกิน 10 ล้านบาท ด้านคอนโดฯ มีราคาเพิ่มขึ้นถึง 3.6% เมื่อเทียบจากปีก่อน
สะท้อนถึงต้นทุนการพัฒนาโครงการที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนค่าที่ดินในบริเวณตามแนวรถไฟฟ้า โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ตลอดแนวรถไฟฟ้า BTS สายสีลม และรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ส่วนทำเลร้อนแรงสุด ได้แก่ ย่านห้วยขวาง–จตุจักร–ดินแดง ในกลุ่มราคา 3–5 ล้านบาท
REIC ยังชี้ว่าภาวะที่ต้นทุนค่าก่อสร้างปรับราคาเพิ่มขึ้น ยังผลักดันให้ราคาขายที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ปรับเพิ่มขึ้น ในขณะที่กำลังซื้อของประชาชนลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวในอัตราที่ต่ำ เป็นอุปสรรคต่อกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังเริ่มต้นชีวิตการทำงานและยังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
ก่อนหน้านี้ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ LPN ออกประเมินทิศทางตลาดอสังหาฯ ไทย ปี 2568 ว่าปัญหาใหญ่ของภาคอสังหาฯ อยู่ที่สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Mortgage Loan) ทำให้มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 70% โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท
ผนวกกับสถาบันการเงินเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อโครงการ (Project Finance) โดยมีข้อกำหนดว่าจะอนุมัติสินเชื่อโครงการเมื่อมียอดขายตั้งแต่ 30-50% ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องชะลอแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ หลายโครงการเปิดตัวแล้ว ก็ชะลอหรือยกเลิกการเปิดตัวโครงการไป
ทั้งนี้ การแห่เปิดโครงการที่อยู่อาศัยระดับบน ยังมีทิศทางไปต่อ โดยเฉพาะช่วงปี 2567 มีโครงการระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ในทำเลกรุงเทพฯ ปริมณฑล มากถึง 120 โครงการ
อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ปี 2568 ยังจะเป็นอีกปีที่ตลาดอสังหาฯ ตกอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยเฉพาะการเปิดโครงการใหม่ เฉพาะทำเลกรุงเทพฯ ปริมณฑล อาจหดตัวต่อเนื่องจากปีก่อนที่ลดลงเกือบ 40% เหลือเพียง 61,453 หน่วยเท่านั้น
ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอน กระทบความเชื่อมั่นทั้งฝั่งผู้พัฒนาและผู้ซื้อ คนไทยมีข้อจำกัดการซื้อที่อยู่อาศัยจากปัญหาหนี้ครัวเรือน ภายใต้ขณะนี้มีที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมสูงกว่า 2.3 แสนยูนิต
ที่มา : REIC ,LWS ,ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney