โจทย์ใหญ่รัฐบาล แก้ภาพลักษณ์ เมื่อเที่ยวไทย เริ่มเสื่อมมนต์ขลังในสายตา “ชาวจีน” ฟื้นช้าสุดในเอเชีย

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

โจทย์ใหญ่รัฐบาล แก้ภาพลักษณ์ เมื่อเที่ยวไทย เริ่มเสื่อมมนต์ขลังในสายตา “ชาวจีน” ฟื้นช้าสุดในเอเชีย

Date Time: 28 ม.ค. 2568 13:33 น.

Video

ยุคนี้เก็บเงินอย่างเดียวไม่พอ! Gen Z มั่งคั่งได้ไง? กับ ท็อป Bitkub | Thairath Money Night Stand EP.29

Summary

เที่ยวไทย เริ่มเสื่อมมนต์ขลังในสายตา “ชาวจีน” นักท่องเที่ยวฟื้นช้าสุด เมื่อเปรียบเทียบกับเมืองต่างๆในเอเชีย ผลพ่วง ภาพลักษณ์ ไม่ปลอดภัย สวนทางคนไทยเที่ยวจีนคึกคัก "นครฉงชิ่ง" จุดหมายปลายทางยอดนิยม ยอดจองทริปเพิ่มขึ้น 240%

Latest


ยังเป็น "การบ้าน" เรื่องใหญ่ที่ทางการไทย ต้องเร่งฟื้นความเชื่อมั่นในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบระยะยาวต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยจากกรณีนักแสดงชาวจีนหายตัวไประหว่างเดินทางมาประเทศไทย ก่อนภายหลังพบตกเป็น “เหยื่อ” ของขบวนการค้ามนุษย์บริเวณฝั่งเมียนมา

ซึ่งแม้เจ้าตัวจะได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว แต่เรื่องดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลมากขึ้นให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ตั้งใจจะมาเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงตรุษจีน บางกลุ่มได้ยกเลิกแผนการเดินทาง และบางคนเลือกที่จะเดินทางไปประเทศอื่นๆ ที่รู้สึกปลอดภัยมากขึ้นแทน

ท่องเที่ยวไทย ความนิยมถดถอยในหมู่ชาวจีน 

สอดคล้องกับผลสำรวจพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนโดย Oliver Wyman มองว่าประเทศไทยซึ่งเป็นที่นิยมมายาวนาน ขณะนี้กลับได้รับความนิยมลดลง เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนมีความกังวลด้านความปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น สะท้อนได้จากกรณีที่เกิดขึ้นหลายๆ เคส ทำให้คนจีนเริ่มมองหาจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ๆ แทน

ทั้งนี้ Thairath Money ชวนส่องข้อมูลสถิติย้อนหลัง บ่งชี้ถึงการลดลงจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทย ช่วงปี 2560 – 2567 ดังนี้

  • ปี 2560: 9.8 ล้านคน (ชาวจีนกลายเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่สุดของท่องเที่ยวไทย โดยจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยจากปี 2559)
  • ปี 2561: 10.6 ล้านคน (ความนิยมของประเทศไทยในสายตาชาวจีนยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง)
  • ปี 2562: 11.1 ล้านคน (นักท่องเที่ยวชาวจีนในไทยเติบโตก้าวกระโดด แข่งเทียบเคียงเมืองท่องเที่ยวดังอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้)
  • ปี 2563: 3.5 ล้านคน (ประมาณการ) ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวนชาวจีนลดลงอย่างรุนแรง
  • ปี 2564: ไม่ถึง 1 ล้านคน (โควิด)
  • ปี 2565: ไม่ถึง 1 ล้านคน หลุด 10 อันดับแรก แม้ประเทศไทยเปิดประเทศ แต่ชาวจีนยังมีข้อจำกัดในการเดินทาง
  • ปี 2566: ราว 3.5 ล้านคน (สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น แต่มีปัญหาการเมืองและนักท่องเที่ยวกังวลความปลอดภัย)
  • ปี 2567: คาดการณ์ 6.7 ล้านคน
  • ปี 2568: คาดการณ์ 7.5 ล้านคน

นักท่องเที่ยวจีนจะฟื้นไหม? ถือเป็นอีกหนึ่งคำถามคาใจ ตั้งแต่ช่วงเกิดวิกฤตโควิด-19 จากที่ปริมาณนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยวันละกว่าสามหมื่นคนได้หายไปจนกลายเป็นศูนย์ เพราะนับจนถึงปัจจุบัน แม้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจะฟื้นตัวดี

แต่ยังนับว่าห่างไกลจากจุดที่ประเทศไทยเคยทำได้เมื่อปี 2562 โดยเมื่อปี 2567 นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวญี่ปุ่นมีจำนวนมากกว่าไทย และหลายประเทศมีการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนดีกว่าไทย

  • เวียดนาม ฟื้นตัว 87.2%
  • สิงคโปร์ ฟื้นตัว 86%
  • ญี่ปุ่น ฟื้นตัว 72.8%
  • เกาหลีใต้ ฟื้นตัว 73.5%
  • ไทย 60.4% 

ภาพลักษณ์ไม่ดี ตลาดท่องเที่ยวแข่งเดือด ปัจจัยฉุดรั้ง 

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ว่า นอกจากการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวเมืองชั้นนำที่สูงขึ้น จากการที่หลายประเทศใช้นโยบายวีซ่าฟรีเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน ข้อมูลจาก VisaIndex พบว่ามี 44 ประเทศที่คนจีนสามารถเดินทางไปเที่ยวโดยไม่ต้องขอวีซ่า และ 36 ประเทศที่สามารถขอวีซ่าได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางสะดวกและมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้นแล้ว

ความต้องการที่หลากหลาย ประกอบกับสื่อสังคมออนไลน์มีผลต่อการเลือกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว ก็ทำให้การเจาะตลาดนักท่องเที่ยวจีนไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป

แม้ปี 2568 คาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยยังเติบโต และไทยจะยังเป็น 1 ในจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว 5 อันดับแรกที่คนจีนเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด

แต่การเร่งขึ้นของคนจีนเที่ยวไทยอาจยากลำบากมากขึ้น จากปัจจัยข้างต้น รวมไปถึงประเด็นสำคัญเรื่องภาพลักษณ์ความปลอดภัยของประเทศไทย รวมไปถึงยังต้องจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจจีนและค่าเงินหยวนผันผวน ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจเดินทางของชาวจีน

ทั้งนี้ จากข้อมูลเบื้องต้นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในช่วงวันที่ 1-19 มกราคม 2568 ชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวมีจำนวนกว่า 3.5 แสนคน เติบโตประมาณ 14.2%

ภายใต้คาดการณ์นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 7.5 ล้านคน เติบโต 11.4% จากปี 2567 หรือกลับมา 68% ของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยทั้งหมดในปี 2562

สวนทาง คนไทยแห่เที่ยวจีนคึกคัก ยอดจองทริปฉงชิ่ง โต 240% 

เจาะสถานการณ์ตรงกันข้าม “ไทยเที่ยวนอก”พบเมื่อปี 2567 จีนยังเป็นประเทศยอดนิยมอันดับ 2 ของนักท่องเที่ยวไทย รองจากญี่ปุ่น

โดยข้อมูลจากสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) เผยว่า ช่วงปี 2567 นักท่องเที่ยวไทยในจีนมีมากกว่า 1 ล้านคน

คาดเป็นผลจากมาตรการยกเว้นวีซ่าคนไทยเมื่อช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา รวมถึงเมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวจีนกับประเทศอื่นๆ พบว่าไม่สูง ทั้งค่าอาหาร ตั๋วเครื่องบิน และโปรแกรมทัวร์ด้วย

ขณะข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รายงานว่าจำนวนนักท่องเที่ยวไทยในประเทศจีนเติบโตขึ้นอย่างน่าสนใจ โดยในปี 2567 เมืองฉงชิ่งได้กลายเป็นจุดสนใจอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย

ด้วยปัจจัยหลายประการที่ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดอย่างยิ่งข้อมูลจาก Ctrip เผยให้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 240% ในการจองทริปของนักท่องเที่ยวไทยที่มุ่งหน้าสู่ฉงชิ่ง

ด้วยระยะเวลาบินเพียง 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ และเที่ยวบินตรงมากกว่า 20 เที่ยวต่อสัปดาห์ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

หากแต่ยังพบว่าสื่อโซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในการสร้างกระแสความนิยม วิดีโอและรูปภาพที่แชร์โดยอินฟลูเอนเซอร์และนักท่องเที่ยวทั่วไปได้ช่วยประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของเมือง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถไฟที่วิ่งผ่านอาคารซึ่งกลายเป็นไฮไลต์ที่ดึงดูดความสนใจ วิดีโอบน TikTok และภาพถ่ายบน Instagram ที่โพสต์โดยอินฟลูเอนเซอร์ได้รับความนิยมสูง ด้วยยอดวิวหลายล้านครั้ง

ขณะจุดหมายอื่นๆ ของชาวไทยในจีน ยังมีกรุงปักกิ่งและมณฑลไห่หนาน โดยคะแนนความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวไทยต่อเมืองจีนอยู่ที่ 83.48 ซึ่งสูงกว่าความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวขาเข้าประเทศอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ

โดยให้คะแนนประเมินสูงในด้านทำเลที่ตั้งของที่พัก ความสะอาดและสะดวกสบายของห้องพัก และคุณภาพการให้บริการระดับมืออาชีพของพนักงาน อย่างไรก็ดี ยังมีความไม่สะดวกในการสื่อสารภาษาอังกฤษของชาวจีน

นอกจากนี้ จากการสำรวจยังพบว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ไปท่องเที่ยวประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวและวัยกลางคนมีอายุ 22-45 ปี และประมาณ 80% เลือกไปเที่ยวเมืองไทยแบบอิสระ ซื้อแพ็กเกจของโรงแรมหรือเข้าร่วมทัวร์ส่วนตัวขนาดเล็ก เป็นต้น

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ