
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 68 รวม 1,300 ตัวอย่างทั่วประเทศว่า ปีใหม่ 68 ถือว่า คึกคัก และคาดว่าจะมีมูลค่าใช้จ่าย 109,313 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2% จากปี 67 ที่มีเงินสะพัด 105,924 ล้านบาท สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ที่เริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ ยังระมัดระวังการใช้จ่าย เพราะมองว่าเศรษฐกิจดีขึ้นเล็กน้อย สะท้อนจากปริมาณการซื้อสินค้าที่มีจำนวนเท่ากับปีก่อน และยังมองว่า เศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นในไตรมาส 1-2 ปีหน้า
ทั้งนี้ ยังมีจุดสำคัญที่จะมีผลกระทบ คือ การเมืองในประเทศที่ยังไม่ชัดเจน และหากปัญหารุนแรงอาจถึงขั้นยุบสภาในไตรมาส 2 และจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยการพิจารณางบปี 68 คือ จะทำให้การพิจารณางบประมาณปี 69 ที่อยู่ในช่วงจะการพิจารณาในวาระ 3 ล่าช้า และหากไม่ผ่านจะมีปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจได้
นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ที่ปรึกษาประจำของสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า มูลค่าใช้จ่าย 109,313 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็น เลี้ยงสังสรรค์ 14,739 ล้านบาท ทำบุญ 11,281 ล้านบาท ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 20,521 ล้านบาท ซื้อสินค้าคงทน 5,049 ล้านบาท ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย 2,860 ล้านบาท ท่องเที่ยวในประเทศ 45,998 ล้านบาท และเที่ยวต่างประเทศ 5,476 ล้านบาท
โดยแหล่งที่มาของเงินที่ใช้จ่าย ส่วนใหญ่ 47% นำเงินเดือนและรายได้ปกติมาใช้, 45.6% เป็นเงินออม ซึ่งสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ตอบเงินออม 37.4%% สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่เงินเดือนไม่พอใช้, 2.4% เงินช่วยเหลือจากรัฐ เข่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เงินช่วยเหลือเกษตรกร เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท, 2.2% โบนัส/รายได้พิเศษ และ 2.7% เงินจากแหล่งอื่น เช่น ถูกรางวัล เสี่ยงโชค ขอผู้ปกครอง
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ มองว่า ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและค่าครองชีพสูง มีผลกระทบต่อการใช้จ่ายช่วงปีใหม่มาก มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่บอกไม่มีผล