ดิ้นแก้นอมินี “ขนส่งศูนย์เหรียญ” ลุยสกัดสินค้าไร้มาตรฐานทะลักเข้าไทย

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ดิ้นแก้นอมินี “ขนส่งศูนย์เหรียญ” ลุยสกัดสินค้าไร้มาตรฐานทะลักเข้าไทย

Date Time: 29 พ.ย. 2567 07:30 น.

Summary

“พิชัย” เผยสหพันธ์การขนส่งทางบก ร้องแก้ปัญหา “ขนส่งศูนย์เหรียญ” จากจีนแย่งตลาดไทย พร้อมส่งรายชื่อธุรกิจทุนจีนที่เสี่ยงเป็นนอมินีให้ตรวจสอบแล้ว ล่าสุด กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตั้งทีมไล่ล่า ขณะที่ “นภินทร” ประชุม 20 หน่วยงาน เร่งแก้ปัญหาสินค้าราคาถูก ไร้มาตรฐานทะลักเข้าไทย ล่าสุด ผลจากมาตรการคุมเข้มนำเข้า ทำสินค้าสั่งซื้อผ่านออนไลน์นำเข้าไทยลดฮวบ

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

“พิชัย” เผยสหพันธ์การขนส่งทางบก ร้องแก้ปัญหา “ขนส่งศูนย์เหรียญ” จากจีนแย่งตลาดไทย พร้อมส่งรายชื่อธุรกิจทุนจีนที่เสี่ยงเป็นนอมินีให้ตรวจสอบแล้ว ล่าสุด กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตั้งทีมไล่ล่า ขณะที่ “นภินทร” ประชุม 20 หน่วยงาน เร่งแก้ปัญหาสินค้าราคาถูก ไร้มาตรฐานทะลักเข้าไทย ล่าสุด ผลจากมาตรการคุมเข้มนำเข้า ทำสินค้าสั่งซื้อผ่านออนไลน์นำเข้าไทยลดฮวบ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสมาชิกและที่ปรึกษาสหพันธ์ ได้เข้าพบ เพื่อหารือนโยบายการสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจโลจิสติกส์ไทย รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีขนส่งศูนย์เหรียญจากจีน ซึ่งก่อนหน้านี้สหพันธ์ได้มีหนังสือแจ้งประเด็นปัญหาและข้อหารือในระบบโลจิสติกส์ พร้อมนำส่งสรุปประเด็นการจดทะเบียนนอมินี (คนไทยทำธุรกรรมอำพรางเพื่อให้คนต่างด้าวทำธุรกิจในไทยโดยเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว) ของทุนจีน และแจ้งข้อมูลรายชื่อบริษัทกลุ่มทุนจีน ซึ่งเป็นนิติบุคคลต้องสงสัยเป็นนอมินีเพื่อให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดำเนินการตรวจสอบแล้ว

“ในระยะเร่งด่วน กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจและคัดกรองข้อมูลนิติบุคคล ซึ่งเน้นธุรกิจที่เกี่ยวกับการขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ ธุรกิจให้เช่าโกดังสินค้าที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและมีคนต่างชาติร่วมถือหุ้นกับคนไทย ซึ่งได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้นมาตั้งแต่เดือน ก.ย.67 โดยมีหนังสือให้ธุรกิจที่มีความเสี่ยงจะเป็นนอมินีในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (15 เขต) อาทิ เขตสัมพันธวงศ์ คลองสาน สาทร บางรัก ห้วยขวาง คลองเตย เป็นต้น ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและการลงทุน ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามนอมินีเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นการครอบงำธุรกิจไทยส่งผลเสียต่อธุรกิจ

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมส่งเสริมและยกระดับ SME ไทยและแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ ร่วมกับ 20 หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ว่า ได้กำหนดเป้าหมายในการหยุดสินค้าไร้คุณภาพไหลเข้าประเทศ โดยพุ่งเป้าใน 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ สินค้าเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าอุตสาหกรรม

โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้ระเบียบกฎหมายอย่างเข้มงวด มีการตรวจสินค้า ณ ด่านศุลกากร ด้วยการเพิ่มความถี่ในการเปิดตู้สินค้า เพื่อตรวจสอบคุณภาพสินค้านำเข้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน การเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบเว็บไซต์และสินค้าที่วางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เป็นไปตามกฎหมายไทย การเพิ่มจำนวนตัวอย่างการเก็บสินค้าสำหรับตรวจสอบสารพิษตกค้าง พร้อมทั้งจัดกลุ่มสินค้าเกษตรตามความเสี่ยงของการพบสารพิษตกค้างมาตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ ให้ทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง

โดยผลจากการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้การนำเข้าสินค้าที่สั่งผ่าน แพลตฟอร์มออนไลน์ลดลง โดยก่อนมีมาตรการ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มิ.ย.67 มูลค่านำเข้าเฉลี่ย 3,200 ล้านบาทต่อเดือน แต่หลังจากมีมาตรการ ก.ค.-พ.ย.67 มูลค่าการนำเข้าลดลงเหลือเฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือลดลง 20% ส่วนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับสินค้านำเข้าที่ซื้อผ่านออนไลน์ และมีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.-21 พ.ย.67 มีมูลค่า 707 ล้านบาท จับกุมสินค้านำเข้าที่ไม่มีมาตรฐาน มูลค่า 506 ล้านบาท เช่น สินค้าปลอมแปลงเครื่องหมาย การค้า อย่างเสื้อผ้า รองเท้า วิตามิน สินค้าเบ็ดเตล็ด รวมถึงสินค้าต้องห้าม อย่างบุหรี่ไฟฟ้า

นอกจากนี้ ยังจะปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้สอดคล้องกับการค้าในอนาคต โดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการออนไลน์จากต่างประเทศจะต้องจดทะเบียนนิติบุคคลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และมีสำนักงานในไทย เพื่อให้ภาครัฐสามารถกำกับดูแลได้ ซึ่งในส่วนของ TEMU แพลตฟอร์มออนไลน์จากจีน ได้จดทะเบียนนิติบุคคลในไทยแล้ว เมื่อวันที่ 11 พ.ย.67 รวมทั้งผลักดันให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากรด้วย พร้อมกันนั้นจะเดินหน้าเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้กับเอสเอ็มอี รวมถึงช่วยเหลือในด้านการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ

“มาตรการข้างต้นจะช่วยแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม ช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้แข่งขันได้ และดูแลคุ้มครองผู้บริโภคไม่ต้องเสี่ยงกับการใช้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันจะผลักดันให้สินค้าไทยมีมาตรฐานสากล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และให้สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล”

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ