
กลายเป็นประเด็นร้อนโซเชียลตลอด 2 วันที่ผ่านมา หลังมีลูกค้ารายหนึ่งโพสต์ข้อความเรียกร้องบนเฟซบุ๊ก ให้บริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) ออกมารับผิดชอบความผิดพลาดของระบบ ที่ไม่ตัดยอดบัตรเครดิต นำเงินจ่ายเครื่องกรองน้ำ แบบผ่อนชำระรายเดือน ส่งผลให้ลูกค้ารายดังกล่าวมีประวัติผิดนัดชำระหนี้ในเครดิตบูโร
ทำเอาผู้ใช้บริการผ่อนชำระสินค้าในรูปแบบเดียวกัน เกิดความกังวลถึงความน่าเชื่อถือของข้อมูลในระบบเครดิตบูโรว่ามีความถูกต้องมากแค่ไหน อีกทั้งยังมีหลายคนที่ไม่ทราบว่าหากติดเครดิตบูโร ทั้งจากการจ่ายหนี้ช้า หรือบริษัทนำส่งข้อมูลผิดพลาด จะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร
ล่าสุดบริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) ออกมาอัปเดตความคืบหน้าเพิ่มว่า บริษัทฯ ได้ประชุมเร่งด่วนกับเครดิตบูโร เพื่อหารือและชี้แจงในประเด็นต่างๆ และดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าทุกคนที่ได้รับผลกระทบ โดยการลาออกจากการเป็นสมาชิกบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งจะมีผลทำให้ข้อมูลลูกค้าผู้ขอสินเชื่อ (การบริการ subscription รายเดือน) ของบริษัทฯ ทุกราย ถูกลบออกจากฐานข้อมูลเครดิตบูโร ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. เป็นต้นไป
โดยในความคืบหน้านั้น สุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ได้ออกมาไขข้อสงสัยถึงประเด็นผลกระทบของการลาออกจากสมาชิกเครดิตบูโร และความถูกต้องของข้อมูลที่ปรากฏในฐานระบบ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
ในกรณีที่พบว่าสมาชิกนำส่งข้อมูลไม่ถูกต้อง ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง กฎหมายกำหนดให้สมาชิกต้องเป็นคนเข้าไปแก้ไขให้ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเครดิตบูโรถูกสั่งห้ามไม่ให้แก้ไขข้อมูลใดๆ เว้นแต่จะเข้าเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เช่น ศาลสั่งให้แก้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล เครดิตสั่งให้แก้เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เครดิตบูโรมีหน้าที่ตรวจทานข้อมูลก่อนนำเข้าระบบ ภายใต้กระบวนการควบคุมดูแลคุณภาพข้อมูล เช่น การเช็กว่าบัญชีที่ถูกส่งมาว่าปิดบัญชีแล้ว แต่ทำไมยังมียอดหนี้คงค้าง อย่างนี้ก็จะถูกสกัดออกไป เป็นต้น
สำหรับกรณีลาออกจากการเป็นสมาชิก เครดิตบูโรจะดำเนินการลบข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ของบัญชีสินเชื่อทุกรายการที่มีการนำส่งเข้ามา ออกจากระบบฐานข้อมูลในวันที่การลาออกมีผลบังคับ
Thairath Money สรุปวิธีกู้เครดิตบูโรจากประวัติเสีย ทำอย่างไรให้กลับมาดี
ข้อมูลเครดิตบูโร คือ ข้อมูลที่แสดงถึงประวัติการชำระหนี้สินเชื่อทุกประเภท ของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ส่งมาจากสถาบันการเงินและบริษัท ที่เป็นสมาชิกบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมและวินัยทางการเงินของเจ้าของข้อมูล โดยการมีประวัติการชำระหนี้ดี หรือเรียกอีกอย่างว่า "เครดิตดี" จะมีโอกาสได้รับสินเชื่อมากกว่าผู้ที่มีเครดิตไม่ดี เนื่องจากสถาบันการเงินจะใช้เป็นข้อมูลร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
ติดเครดิตบูโร คือ การที่บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลมีพฤติกรรมชำระหนี้ผิดปกติ หรือมีบัญชีค้างชำระ เช่น การขอพักหนี้ การผิดนัดชำระหนี้เกิน 90 วัน จนกลายเป็นหนี้เสีย หรือกำลังอยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการจ่ายหนี้ที่ลดลง
ติดต่อสถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการสินเชื่อชำระหนี้คงค้างให้หมด หรือขอแก้ไขข้อมูลการชำระเงินที่ไม่ถูกต้อง
สร้างความน่าเชื่อถือขึ้นมาใหม่
เมื่อจัดการปิดจบหนี้เรียบร้อยแล้ว ประวัติการชำระหนี้จะยังถูกจัดเก็บอยู่ในเครดิตบูโรอีก 3 ปี นับจากวันที่ได้รับรายงานข้อมูล การปิดบัญชีจากสถาบันการเงิน โดยข้อมูลจะถูกทยอยลบออกไปทีละเดือนจนครบ 3 ปี บัญชีสินเชื่อดังกล่าวจะถูกลบออกไปจากฐานข้อมูลอัตโนมัติ
สำหรับในกรณีที่มีการผิดนัดชำระหนี้เกิน 90 วัน สถาบันการเงินจะส่งข้อมูลสินเชื่อคงค้างให้เครดิตบูโรต่อเนื่องไปอีกเป็นเวลาไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่ค้างชำระเกิน 90 วัน
ที่มา