“นฤเบศ กูโน” ใช้ความรักและแพชชัน สร้างพลังซอฟต์พาวเวอร์

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“นฤเบศ กูโน” ใช้ความรักและแพชชัน สร้างพลังซอฟต์พาวเวอร์

Date Time: 17 เม.ย. 2567 06:20 น.

Summary

แม้ซีรีส์จะทำออกมาเพื่อสร้างความบันเทิง แต่หากมองในเชิงธุรกิจหรือการสร้างวัฒนธรรม Soft power เพื่อส่งออกไปสร้างความรักความประทับใจ ทำให้เขารัก ชื่นชอบประเทศไทย เพลงไทย อาหารไทย ประเพณีวัฒนธรรมไทยได้จริงๆ

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

“นฤเบศ กูโน” หรือพี่บอส ผู้กำกับและผู้จุดกำเนิดซีรีส์เรื่อง “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” กล่าวถึงความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้ว่า ซีรีส์เรื่องนี้ที่ประสบความสำเร็จและยังคงได้รับการพูดถึงจนถึงทุกวันนี้ มันเกิดจากความตั้งใจและมีเป้าหมายที่ชัดเจน เราสร้างมันขึ้นมาด้วยความรักและมี Passion กับมัน เส้นของความสำเร็จ มาจากทุกส่วนที่ผสมกันอย่างลงตัว ตั้งแต่ครีเอทีฟทีมงานที่ร่วมกันคิดบทขึ้นมา การถ่ายทอดภาพ สีแสงเงา มุมกล้อง อารมณ์และการเข้าถึงบทบาทของตัวละคร จนทำให้ผู้ชมเกิดการยอมรับ เชื่อในตัวละคร รักและ “อิน” กับมัน

“เราเห็นอนาคต เห็นไทม์ไลน์ตั้งแต่วันนั้นว่า ถ้าเราทำบทดี-กำกับดี และนักแสดงเล่นได้ดี จะพาเราไปไกลมากๆ มันเป็นเส้นทางที่เราวางไว้ ที่สำคัญต้องขอบคุณคนภูเก็ตที่ให้ความช่วยเหลือทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ มีความน่ารักทั้งเมือง เราต้องปิดถนนถ่ายทำ ก็เข้าใจและยังมาช่วยกันเคลียร์พื้นที่ให้”

“พี่บอส” เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้น ที่เป็นตัวจุดประกายให้เกิดซีรีส์เรื่องนี้ว่า เราเห็นเคมีที่เข้ากันของ 2 เพื่อนรักเพื่อนซี้ “พีพี-บิวกิ้น” ที่เขามีความสนิทสนมกันมากตั้งแต่ซีรีส์เรื่อง My Ambulance ซึ่ง “พีพี-บิวกิ้น” เล่นเป็นคู่รอง หลังจบเรื่องนั้น มีกลุ่มแฟนคลับจำนวนมากเรียกร้องขอให้ พีพี-บิวกิ้น แสดงซีรีส์คู่กันอีก ซึ่งไม่ใช่แค่แฟนคลับไทย แต่เป็นแฟนต่างชาติและส่วนใหญ่เป็นคนจีน ซึ่งคนที่ชื่นชอบ“พีพีี-บิวกิ้น” มองคล้ายกับภาพที่เรามองเห็นเขา เรามอง “บิวกิ้น” มีหน้าตาคล้ายพระเอกหนังฮ่องกงผิวเข้มๆ อย่าง หลิวเต๋อหัว-กู่เทียนเล่อ ส่วน “พีพี” หน้าตาสไตล์ไอดอลเกาหลี

จึงตั้งเป้าหมายว่า อยากทำคอนเทนต์ให้ประสบความสำเร็จ และอยากทำให้ทั้งคู่เป็นที่รักและได้ความนิยมจากทั้งคนไทยและต่างประเทศในวงกว้างมากขึ้น จึงมองหาลู่ทางไปสู่ความสำเร็จ เริ่มจากบทละคร ต้องเป็นบทที่เรา “อิน” และส่วนตัวเราเป็น LGBTQ+ จึงทำเรื่องของ LGBTQ+ ที่เป็นเด็กต่างจังหวัด เพราะ “บอส” เป็นเด็กหาดใหญ่ และมีความผูกพันกับทะเล ตื่นมาก็เห็นทะเล

เมื่อจุดเริ่มต้นเกิดจากสิ่งนี้ ก็เลือก “พีพี-บิวกิ้น” เข้ามาใส่ในบท และเลือกภูเก็ต เป็นสถานที่ถ่ายทำเพราะภูเก็ตมีความผสมผสานไทย จีน มาเลเซีย มีศิลปวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีตึกรามบ้านช่องและชายหาดทะเลที่สวยงาม เราอยากให้คนรู้จักและเห็นเสน่ห์ความสวยงามของภูเก็ตในหลากหลายมุมมองมากขึ้น และได้มีการ workshop ตัวละครและความสัมพันธ์ในวัยมัธยมของ “พีพี-บิวกิ้น” ที่เจอกันในที่เรียนพิเศษ เห็นหน้า “บิวกิ้น” ก็เห็นตัวอักษรจีน จึงเขียนบทให้เขาเจอกัน ในที่เรียนพิเศษห้องเรียนภาษาจีน และค่อยๆต่อยอด ไปสู่การทำเพลงประกอบซีรีส์เป็นภาษาจีนด้วย

“ช่วงที่เขียนบทได้ลงไปอยู่ภูเก็ต หาข้อดีหรือมุมมองที่พิเศษ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องท่องเที่ยว แต่ให้เป็นวัฒนธรรม เรื่องราวที่เกี่ยวกับภูเก็ตจริงๆ ดึงบางส่วนมาไว้ในฉากของหนังอย่าง “หมี่ฮกเกี้ยน” เมนูที่คนภูเก็ตขายและกินกันทุกคน เราทำซีรีส์ 5 ตอน เกือบ 100 ซีน ครอบคลุมภูเก็ตทุกด้านทั้งอาหาร ที่พัก การท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ วัฒนธรรม วิถีชีวิต ผลออกมาเป็นไปตามที่เราคิดไว้ มีคนไปเที่ยวเพื่อตามรอยสถานที่ในซีรีส์ ทำให้ภูเก็ตมีมุมมองของการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปจากเดิม นักท่องเที่ยวจีนใส่ชุดนักเรียนวัยมัธยมและเสื้อลายดอกชบาสีแดงของตัวละครมาเที่ยวเมืองภูเก็ต ถือเป็น Soft power ที่เกิดขึ้น”

ขณะที่เพลงประกอบซีรีส์ต้องสร้างตัวตนและความรู้สึกของตัวละครเข้าไปในบทเพลง เพื่อเสริมสร้างทั้งซีรีส์และบทเพลงควบคู่กัน ทำให้เพลงประกอบสามารถเป็นพลังหรือ Soft power ที่ทำให้ผู้ชม โดยเฉพาะต่างชาติที่ “อิน” กับซีรีส์พยายามหาความหมายของเพลงและหัดร้องตาม แม้จะเป็นเพลงภาษาไทย แต่ก็สามารถร้องตามได้อย่างชัดเจนน่าประทับใจ ทำให้เขาอยากเรียนรู้เพลงไทยและภาษาไทยมากขึ้น

“พี่บอส” ยังพูดถึงตัวละคร พีพี-บิวกิ้น ที่เป็นส่วนสำคัญที่สร้างพลังหรือ Power ให้กับซีรีส์เรื่องนี้ ด้วยว่า ด้วยความทุ่มเทพยายามของเขาทั้งคู่ ในการถ่ายทอดบทบาท สามารถผลักดันกระแสซีรีส์ได้เป็นอย่างดี “บิวกิ้น” เป็นเด็กมหัศจรรย์ ที่มีศักยภาพมาก ด้วยความพร้อมทั้งการแสดง ร้องเพลง และประสบการณ์ชีวิตของเขาทำให้ทุกอย่างลงตัว ทำได้อย่างดี “พีพี” ก็เช่นกัน ที่ทุ่มเทและตั้งใจแสดงอย่างเต็มที่ ประกอบกับความมีอัตลักษณ์ ที่สามารถสร้างตัวตนของเขาได้เป็นอย่างดี วันที่ซีรีส์ออนแอร์ แล้วได้ feedback ที่ดีมากๆ ช่วยสร้างความมั่นใจให้ “พีพี” จนสามารถเติบโตและเป็นที่รักของแฟนคลับทุกวันนี้ “พีพี” เป็นคนที่เคารพและภูมิใจในตัวเอง และยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้แฟนๆ มีความรักและมั่นใจในร่างกายตัวเองตลอดจนถึงการแต่งกาย

“พี่บอส” ผู้สร้าง Super Soft power ตัวจริงของจริง ได้ให้มุมมอง Soft power ว่า ต้องเป็นพลังแบบเล็กๆและ เนียนๆ ที่ต้องอาศัยการ “อิน” หากเป็นการตะโกนหรือแสดงออกจนมากเกินไป มองว่าไม่ใช่ Soft power ซึ่งซีรีส์หรือหนัง จึงเป็นโมเดลที่ทำสิ่งนี้ได้ โดยใช้ตัวละครเป็นผู้ถ่ายทอด ทำให้เราสามารถใส่ Soft power เข้าไปได้ ทั้งทัศนคติ มุมมอง การใช้ชีวิต อาหาร เสื้อผ้า วัฒนธรรม ต้องอาศัยการเล่าแบบมีศิลปะและแนบเนียน จนเกิดการ “อิน” เป็นพลังให้เกิดสิ่งต่างๆตามมามากมาย

เมื่อถามว่า อยากให้รัฐบาลเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุน Soft power อย่างไรถึงจะตรงจุดตรงเป้าหมาย “พี่บอส” บอกว่า หากรัฐบาลเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุน จะเกิดเป็นความร่วมมือที่มีพลังที่ใหญ่มาก การสนับสนุนของรัฐทำได้หลายทางทั้งด้านเงินทุน และการช่วยโปรโมต ประชาสัมพันธ์ทั้งในและต่างประเทศในช่องทางเครือข่ายที่กว้างขึ้นใหญ่ขึ้น คอนเทนต์ของเราก็จะได้รับความสนใจการรับรู้และการเผยแพร่ในวงที่ขยายใหญ่ขึ้นไปทั่วโลกได้ จากปัจจุบันที่มีเพียงการโปรโมต ผ่านแพลตฟอร์มหรือช่องทางที่แต่ละบริษัทมีเท่านั้น ซึ่งถ้าช่วยกันได้จะทำให้คอนเทนต์ไปได้ไกลมากขึ้น

ส่วนด้านเงินทุนการผลิตหรือสร้างนั้นจะช่วยให้ผู้ประกอบการยกระดับซีรีส์ให้ดีขึ้นได้มาก เพราะบางครั้งการมีเงินทุนจำกัด อาจทำให้เราไม่สามารถถ่ายทอดสะท้อนภาพ รายละเอียดได้ตามจินตนาการของศิลปินผู้สร้างหรือผู้เขียนบท เพราะต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายหรือเงินทุน หากมีทุนสร้างมากขึ้น ก็จะช่วยให้เกิดการสื่อสารได้ชัดเจนและสวยงามได้ตามจินตนาการของผู้สร้าง รวมทั้งสื่อสารความสวยงามผ่านสถานที่ท่องเที่ยวได้มากขึ้น ตามเป้าหมายของภาครัฐ นอกจากนี้อาจให้การส่งเสริมหรือจูงใจด้านอื่นๆเพิ่มขึ้น เช่นภาษีหรือค่าใช้จ่ายต่างๆ เหมือนที่กองถ่ายต่างชาติที่ได้รับการส่งเสริม รวมทั้งอยากให้รัฐช่วยอำนวยความสะดวกการขออนุญาตสถานที่ในการถ่ายทำ ซึ่งจะช่วยให้ภาพหรือการสื่อสาร สร้างมุมมองใหม่ๆให้กับพื้นที่ได้มากขึ้นด้วย

แม้ซีรีส์จะทำออกมาเพื่อสร้างความบันเทิง แต่หากมองในเชิงธุรกิจหรือการสร้างวัฒนธรรม Soft power เพื่อส่งออกไปสร้างความรักความประทับใจ ทำให้เขารัก ชื่นชอบประเทศไทย เพลงไทย อาหารไทย ประเพณีวัฒนธรรมไทยได้จริงๆ ซึ่งสามารถนำมาต่อยอดได้มากมาย ที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

“นฤเบศ กูโน” ยังฝากทิ้งท้ายว่า “นโยบายรัฐบาลมีผลกับการทำคอนเทนต์มาก เราเห็นด้วยกับการจัดเรตติ้ง เพราะช่วยคัดกรองว่าวัยไหนเหมาะกับอะไร ซึ่งจะช่วยให้การสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ตรงกับเรตติ้งหรือวัยของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเต็มที่ แต่การเซ็นเซอร์เหมือนการจำกัดปิดกั้น ไม่สามารถถ่ายทอดเนื้อหาหรือตัวละครได้อย่างที่ตั้งใจ บางทีทำให้ต้องฝืนกับการครีเอทีฟในบางมุมบางด้าน โชคดีที่ซีรีส์แปลรักฯ เป็นคอนเทนต์ที่เผยแพร่ลงในออนไลน์ ที่เป็นจุดเริ่มต้นทำให้ไม่มีกองเซ็นเซอร์หรือไม่มีเรื่องราวอื่นๆมาเกี่ยวข้อง ทำให้คอนเทนต์ทำงานของมันไปได้อย่างเต็มที่”.

ทีมเศรษฐกิจ

คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปเศรษฐกิจ” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ