ปูพรมตรวจสอบนอมินีทั่วภูเก็ต ธุรกิจ “เดวิดเตะหมอ” ไม่ขัด พ.ร.บ.ต่างด้าว

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ปูพรมตรวจสอบนอมินีทั่วภูเก็ต ธุรกิจ “เดวิดเตะหมอ” ไม่ขัด พ.ร.บ.ต่างด้าว

Date Time: 6 มี.ค. 2567 07:55 น.

Summary

เหตุเกิดจาก “เดวิดเตะหมอ” กรมพัฒนาธุรกิจจับมือดีเอสไอ ลุยตรวจธุรกิจต้องสงสัยเป็นนอมินี จ.ภูเก็ต พบเข้าข่ายทำผิด 59 ราย ขณะที่ผลตรวจบริษัทอีเลเฟนท์ฯ ของ “เดวิดเตะหมอ” เบื้องต้นไม่พบขัดกฎหมายไทย 2 คน ถือหุ้น 51% และต่างชาติ 1 คน ถือหุ้นไม่เกิน 49% ไม่ขัดธุรกิจคนต่างด้าว ยันใครเป็นนอมินีโทษหนัก

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในเร็วๆนี้ กรมจะลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมการท่องเที่ยว ฯลฯ ไปตรวจสอบกรณีคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) เพื่อ ทำธุรกิจในไทย โดยเลี่ยงการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 โดยจะตรวจสอบธุรกิจเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทั้งภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก เช่ารถตู้ โรงแรม รีสอร์ต อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ และมีคนต่างด้าวถือหุ้นไม่เกิน 50% รวมถึงบริษัท อีเลเฟนท์ แซงชัวรี่ พาร์ค ภูเก็ต จำกัด ของนายเดวิด ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้าง ซึ่งก่อเหตุ เตะหมอสาวชาวไทยด้วย ซึ่งขณะนี้พบที่จะมีความเสี่ยงเป็นนอมินี 59 ราย

“กรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบนอมินีเป็นประจำอยู่แล้ว ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพราะบางธุรกิจเป็นธุรกิจต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าวที่ทำไม่ได้เลย และบางธุรกิจ หากคนต่างด้าวจะทำธุรกิจในไทยต้องขออนุญาต แต่การมีนอมินีก็เพื่อเลี่ยงกฎหมาย โดยในปี 67 มีแผนตรวจสอบอย่างต่อเนื่องในจังหวัดท่องเที่ยว และกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอได้ประสานมาให้ลงไปตรวจที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีข่าวเดวิดเตะหมอพอดี”

แต่จากข้อมูลการจดทะเบียนของกรม พบว่า บริษัทอีเลเฟนท์ฯ ดำเนินธุรกิจเลี้ยงช้างและเปิดให้ชม จดทะเบียนนิติบุคคลปี 60 มีกรรมการ 3 คน เป็นคนไทย 2 คน ถือหุ้นสัดส่วน 51% อีก 1 คนเป็นต่างชาติ ถือหุ้นไม่เกิน 49% ซึ่งไม่ขัดกับ พ.ร.บ.ต่างด้าว แต่ จะตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกด้วยเช่นเดียวกับบริษัทอีก 59 ราย หากพบต้องสงสัยเป็นนอมินี

สำหรับปี 67 กรมได้กำหนดแผนตรวจสอบนอมินีในจังหวัดท่องเที่ยว ทั้งภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี รวมถึงกรุงเทพฯ ในย่าน สำเพ็ง คลองถม เยาวราช ฯลฯ โดยเน้นธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และมีคนต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 50% ซึ่งมีทั้งหมด 26,019 ราย แต่จะตรวจสอบเชิงลึก เช่น เส้นทางการเงิน ฯลฯ ทั้งหมด 419 ราย โดยในจำนวนนี้ได้ขอข้อมูลเชิงลึกจากผู้ประกอบการไปแล้ว 313 ราย

ส่วนผลการตรวจสอบนอมินีในปี 66 กรมได้ตรวจสอบนิติบุคคลที่มีความเสี่ยงรวม 15,000 ราย และเมื่อตรวจสอบแล้วเห็นว่าต้องตรวจสอบเชิงลึกประมาณ 400 ราย จึงได้ตรวจสอบต่อ จนพบพฤติกรรมน่าสงสัย และ ได้ส่งดำเนินคดีรวม 8 ราย ตามความผิดภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ส่วนรายอื่นๆที่ไม่ผิดกฎหมายที่กรมดูแลอยู่ แต่ผิดกฎหมายของหน่วยงานอื่น เช่น ตรวจคน เข้าเมืองหรือภาษี ก็ได้ส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการต่อแล้ว

ทั้งนี้ กรณีการเป็นนอมินี ถือเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000-1 ล้านบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีก วันละ 10,000-50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน และ กรรมการบริษัทก็จะมีความผิดด้วย.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ