สัปเหร่อ-ธี่หยด-4Kings ฮิต คนดูหนังไทยนำฮอลลีวูด! ทำเงิน 1.4 พันล้าน

นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอ็ม สตูดิโอ จำกัด (M Studio) เปิดเผยว่า ไตรมาสสุดท้ายปี 66 อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด สัดส่วนคนดูภาพยนตร์ไทยโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเป็นปีแรกที่จำนวนคนดูหนังไทยมีจำนวนมากกว่าจำนวนคนดูหนังฮอลลีวูด ในสัดส่วน 55:45 โดยหนังไทย 3 เรื่องในไตรมาสสุดท้ายปี 66 ทำรายได้รวมกันกว่า 1,400 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวนบัตรชมภาพยนตร์กว่า 12 ล้านใบ ได้แก่ 1.สัปเหร่อ ทำรายได้ 700 ล้านบาท จำนวนตั๋วหนังกว่า 6 ล้านใบ 2.ธี่หยด ทำรายได้ 500 ล้านบาท จำนวนตั๋วหนังกว่า 4 ล้านใบ และ 3.4 Kings ทำรายได้ 200 ล้านบาท จำนวนตั๋วหนัง 2 ล้านใบ

นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า ภาพยนตร์เรื่องธี่หยด ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ภาพยนตร์ยอดนิยมปลายปีที่แล้ว เป็นความร่วมมือผลิตระหว่างเอ็ม สตูดิโอ และ ช่อง 3 ทำรายได้ทั่วประเทศ 500 ล้านบาท รวมถึงสร้างสถิติใหม่ให้วงการภาพยนตร์ไทย ไม่ว่าจะเป็นสถิติการเปิดตัวสูงสุดในปี 66 ทำรายได้ทั่วประเทศ 39 ล้านบาทใน 1 วัน, ทำรายได้แตะ 100 ล้านบาทเร็วที่สุดแห่งปีภายใน 3 วัน และภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ฉายในระบบ IMAX DMR โดยมียอดคนดูเปิดตัวสูงกว่าหนังฮอลลีวูดทุกเรื่องที่เข้าฉายในปี 66

“ธี่หยดยังเป็นภาพยนตร์ไทยที่มีรายได้สูงสุดในแต่ละประเทศที่เข้าฉาย ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ ไต้หวัน เป็นต้น ทำรายได้รวมกันมากกว่า 100 ล้านบาท สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้มั่นใจว่าหนังไทยจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เฉพาะในเมืองไทยแต่เป็นทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ ธี่หยดได้ถูกนำไปฉายในโรงภาพยนตร์ต่างประเทศกว่า 20 ประเทศแล้ว”

นายสุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า ปี 67 นี้ จะยังคงเดินหน้าเป็นพันธมิตรกับช่อง 3 นำจุดแข็งธุรกิจของทั้งสองฝ่ายมาสร้างสรรค์ภาพยนตร์ไทยเพื่อรองรับการขยายตัว ผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวภาพยนตร์ไทยไปยังผู้ชมทั่วโลก เป็นสื่อในการเผยแพร่นำศิลปวัฒนธรรม รูปแบบความเป็นไทย การท่องเที่ยว รวมถึงสินค้าและบริการต่างๆของไทยให้เป็นที่รับรู้และได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก ตลอดจนร่วมกันนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งด้านการตลาด และสื่อโฆษณา รวมถึงกิจกรรมบนโลกออนไลน์ และกิจกรรม ลงพื้นที่ต่างๆ (On Air, Online, On Ground) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแบรนด์พันธมิตร โดยมุ่งเน้นถึงการสร้างความผูกพันกัน และสร้างประสบการณ์ที่ดีในการชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์เป็นสำคัญ”

ด้าน น.ส.เทรซี แอนน์ มาลีนนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่ม บมจ.บีอีซี เวิลด์ เจ้าของช่อง 3 เปิดเผยว่า นอกจากความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ผลิต และผู้นำทางด้านแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์แล้ว ช่อง 3 จะให้ความสำคัญกับการต่อยอดคอนเทนต์ในหลายแพลตฟอร์ม รวมถึงสร้างจุดแข็งไม่เฉพาะในละคร แต่เป็นเพลงและภาพยนตร์ด้วย ผ่านความร่วมมือกับเอ็ม สตูดิโอ ผู้นำการสร้างภาพยนตร์และมีโรงฉายภาพยนตร์ที่มีคุณภาพ ปีนี้ช่อง 3 จะมีภาพยนตร์ที่ร่วมผลิตกับเอ็ม สตูดิโอ 2 เรื่อง คือ “มานะแมน” ภาพยนตร์ตลก สนุกสนาน มีแผนจะเข้าโรงภาพยนตร์กลางปี และภาพยนตร์สยองขวัญ “ธี่หยด 2” ซึ่งได้ณเดชน์ คูกิมิยะ มานำแสดง มีกำหนดการเข้าโรงภาพยนตร์ช่วงปลายปีในระบบ IMAX”.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่