ไอคอนสยามเตรียมฉลอง 5 ปี ยิ่งใหญ่อลังการ

ไอคอนสยาม หนึ่งใน “โกบอล เดสติเนชัน” หรือสุดยอดจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยที่จะต้องมาเยือนไม่เช่นนั้นจะคุยกับชาวบ้านไม่รู้เรื่องว่า ทำไมอภิมหาโครงการซึ่งเป็นไฮไลต์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทำไมเป็นอันดับหนึ่งในใจนักท่องเที่ยวไทยและทั่วโลก

จากตัวเลขนักท่องเที่ยวล่าสุดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาแล้วถึง 21.5 ล้านคนเศษ สิ้นสุด 22 ต.ค. เติบโตเพิ่มขึ้น 220% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเป็นการเข้าสู่ช่วงไฮซีซันที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะแห่เดินทางเข้ามา ทางไอคอนสยามจะเตรียมตัวต้อนรับคลื่นนักท่องเที่ยวอย่างไร

หลังจากการเปิดตัวโครงการมูลค่าการลงทุนเกือบ 60,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการลงทุนสูงสุดในสมัยนั้น และเปิดให้บริการตั้งแต่ 9 พ.ย.2561 อย่างยิ่งใหญ่ โดยการร่วมทุนระหว่างกลุ่มสยามพิวรรธน์, เครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จนถึงปีนี้ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 5 “ไอคอนสยาม” เตรียมประกาศความสำเร็จและเตรียมทุ่มงบถึง 500 ล้านบาท เพื่อฉลองกับความสำเร็จระดับโลก

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ตลอดเวลา 5 ปี ไอคอนสยามได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เป็นผู้พลิกเกมครั้งยิ่งใหญ่ และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้แข็งแกร่งขึ้นหลังวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมา สร้างศูนย์กลางธุรกิจ และการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ บนพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและฝั่งธนบุรี ทำให้ความเจริญรุ่งเรืองกระจายในวงกว้างไปได้มาก โดยปี 2567 ตั้งเป้ามีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์นานาประการแก่ชุมชนที่รายล้อมไอคอนสยาม และธุรกิจต่างๆริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด

ช่วงที่ผ่านมาไอคอนสยามสามารถดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามาได้มากกว่า 5,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานมากกว่า 300,000 อัตรา เพิ่มมูลค่าของที่ดินบริเวณถนนเจริญนครและใกล้เคียง จากตารางวาละ 150,000 บาท ในปี 2561 ขยับขึ้นเป็น 640,000 บาท ในปี 2566

นอกจากนี้ ภาครัฐบาลยังได้เข้ามาสานต่อในการปรับโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยการวางระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมต่อการคมนาคมขนาดใหญ่ของรถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าสายสีทอง แผ่ขยายการเดินทางครอบ คลุมทั้ง “รถ-ราง-เรือ” ช่วยให้ประชาชนและนักท่อง เที่ยวชาวต่างชาติเดินทางได้สะดวก และหลากหลายมากขึ้น สร้างสีสันให้ธุรกิจการค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งยังไม่นับรวมที่ไอคอนสยามสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอี กระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยในเมือง “สุขสยาม” มากถึง 12,700 ราย และ “ไอคอนคราฟต์” อีก 840 รายด้วย

ไอคอนสยามนับเป็นไอคอนิกหรือสัญลักษณ์การนำสิ่งที่ดีที่สุดของไทยมาบรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก “The Best of Thailand Meets The Best of The World” เป็นการนำเสนอคุณงามความดีในทุกมิติของความเป็นไทย พร้อมความยิ่งใหญ่ของสิ่งมหัศจรรย์จากทั่วทุกมุมโลกมารวมอยู่ในที่เดียวกัน ซึ่งถือเป็นต้นแบบการพัฒนาโครงการเมืองด้วยแนวคิดความยั่งยืน เติบโต และทำธุรกิจภายใต้กลยุทธ์การร่วมกันรังสรรค์ (Co-Creation) และการสร้างประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย (Creating Shared Value) ทำให้มีการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนกับทุกภาคส่วน เกิดผลตอบรับเชิงบวกสู่สังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนสำคัญที่นำไอคอนสยามก้าวสู่ความยิ่งใหญ่บนเวทีโลกได้สำเร็จ

นายสุพจน์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากพลังความร่วมมือจากพันธมิตรทุกคน ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และชุมชนโดยรอบที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด ดังนั้น ในวาระพิเศษครบรอบ 5 ปีของไอคอนสยามครั้งนี้ จึงอยากเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมเฉลิมฉลองด้วยกัน ภายใต้ธีม “ICONSIAM-The 5th Anniversary of The ICON Un rivaled” เพื่อร่วมกันตอกย้ำให้ทั่วโลกรับรู้ว่า ประเทศไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

สำหรับการจัดงานฉลองครบรอบ 5 ปี ระหว่างวันที่ 9-11 พ.ย.2566 จะเป็นงานอีเวนต์ระดับโลก ที่จับมือรวมพลัง 5 พันธมิตรระดับโลก ได้แก่ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส สร้างมหาปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่ในรูปแบบ “World Collaboration” ที่มีครบทั้งรายการโปรโมชัน และกิจกรรมบันเทิงมากมาย

ขณะเดียวกันยังใช้เป็นเวทีโชว์ซอฟต์เพาเวอร์ของไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์และต่อยอดสู่เวทีโลก ตามนโยบายรัฐ รวมถึงร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในช่วงปลายปี เช่น การแสดงแสงสี วิจิตรเจ้าพระยา, งาน Amazing Thailand Countdown 2024 เป็นต้น โดยแคมเปญจะเริ่มยาวตั้งแต่เดือน ต.ค.2566 ไปจนถึงเดือน ก.พ.2567 เป็นระยะเวลา 5 เดือน

เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ และดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและทั่วโลกเข้ามาใช้บริการในไอคอนสยามเพิ่มขึ้น และคาดหวังว่าไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 นี้ ไอคอนสยามจะมีลูกค้าทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแห่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นกระหึ่มมากกว่า 70% จากในช่วงปกติที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 120,000 คน ในวันธรรมดา และวันละ 140,000 คน  ในวันหยุด

ตอกย้ำจุดแข็งในการเป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของประเทศไทย ที่คอยรับแขกทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่หมุนเวียนมาเยือนโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต สัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา!!

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่