ราคาที่ดิน "เขาใหญ่" พุ่ง รับรถไฟความเร็วสูง จับตา "โครงการ บันยันทรี เรสซิเดนซ์" ฮับของคนรวย

ประเทศไทย มีที่ดิน “ทำเลทอง” ไม่กี่แห่ง ส่วนใหญ่ มักกระจุกตัวอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจของ กทม. หรือ ที่เรียกว่า CBD (Central Business District) ไม่ว่าจะเป็น โซนเพลินจิต, ชิดลม, ถ.วิทยุ, สาทร, ลุมพินี, สุขุมวิท, ทองหล่อ, พร้อมพงษ์ และสยามสแควร์ ที่ขึ้นแท่น ว่า “ราคาที่ดิน” แพงตาแตก มีการซื้อ-ขายต่อไร่ หลักพันล้านบาทขึ้นไป หรือคำนวณเป็น ตร.ว. ก็สนนราคา ไม่ต่ำกว่า 2.2 ล้านบาท ต่อ ตร.ว.

“เขาใหญ่” ราคาที่ดินพุ่ง เทียบชั้น ทองหล่อ

แต่รู้หรือไม่? ทำเลที่ไพรม์ที่สุดของเมืองไทย มานานหลายสิบปี และมีแนวโน้มการเติบโตของ “ราคาที่ดิน” มากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา นั่นก็คือ “เขาใหญ่-วังน้ำเขียว” จังหวัดนครราชสีมา ที่ห่างจาก กทม. ราว 200 กิโลเมตร จนได้รับสมญานามใหม่ว่า เป็น “ทองหล่อ แห่งที่ 2 ของเมืองไทย”  

ก็เนื่องด้วยเกิดปรากฏการณ์ เศรษฐีไทย และนักลงทุน เข้าไปกว้านซื้อที่ดิน ทั้งแปลงใหญ่ และแปลงเล็ก แห่สร้างบ้านหรู เพื่อหลีกหนีจากโรคระบาด และความวุ่นวายของเมือง ส่งผลราคาที่ดินเติบโตอย่างก้าวกระโดด รายงานข่าวล่าสุด ระบุ มีการซื้อ-ขาย ที่ดินเขาใหญ่ ในราคาสูงถึงไร่ละ 15 ล้านบาทเลยทีเดียว

“เป็นที่รู้กันดี เขาใหญ่ เป็นย่านที่อยู่อาศัยของเศรษฐีไทย ขณะช่วงโควิด เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ดิน ขายดีมาก เพราะกลุ่มคนมีเงิน หนีโควิด เข้าไปสร้างบ้านหรูอยู่กันที่เขาใหญ่”

นี่คือคำกล่าว ของ “ชยดิฐ หุตานุวัชร์” ประธานกรรมการ บริษัท เครสตั้น โฮลดิ้ง จำกัด กลุ่มทุนล่าสุด ที่คาดว่า กำลังจะสร้างความเปลี่ยนแปลง ให้กับ พื้นที่ “เขาใหญ่” เฟสที่ 2 จากการประกาศ ผนึกกำลัง ร่วม “บันยันทรี กรุ๊ป” เชนโรงแรมดังระดับโลก พัฒนา “โครงการบันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์” Branded Residences แห่งแรกของเขาใหญ่ 

บนผืนดินที่อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และขึ้นชื่อว่าแพงที่สุดในเขาใหญ่ ด้วยมูลค่าบิ๊กโปรเจกต์ มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท ประกอบไปด้วย โรงแรม, คอนโดมิเนียม, วิลล่า และ Wellness Resort โอบล้อมด้วยทิวเขา 3 ทิศ ทะเลสาบ 30 ไร่ กลางโครงการ มรดกรุ่นสู่รุ่น ของคนระดับเศรษฐีเท่านั้น ด้วยราคายูนิตที่ขายแพงที่สุด 96 ล้านบาท (ณ วันเปิดขาย) โดยใช้เวลาพัฒนาแล้วเสร็จทั้งโปรเจกต์ ช่วง ปี 2571 หลัง “รถไฟความเร็วสูง” แล้วเสร็จไม่นาน 

บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ เปิด Master Plan เริ่มก่อสร้าง 

เจาะรายละเอียด โครงการ บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการอสังริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ของไทย หลังกลุ่มทุน เครสตั้น โฮลดิ้ง พยายามรวบรวมที่ดินผืนใหญ่ดังกล่าว ขนาด 226 ไร่ (ราคาที่ดิน 1.5-1.7 แสนบาท/ตร.ว.) มานานมากกว่า 10 ปี โดยเริ่มแรก ความยิ่งใหญ่ จากการ นำร่อง ขายในรูปแบบ จัดสรรที่ดิน บ้านหรู 99 ไร่ ในนาม โครงการบ้าน Creston Hill ก่อน วางเป้าหมายเป็น โครงการ Branded Residences ระดับมาสเตอร์พีซ อันประกอบไปด้วย

• พูลวิลล่าขนาด 3 และ 4 ห้องนอน แบบตกแต่งครบครันรวม 21 ยูนิต (ราคาเริ่มต้น 60 ล้านบาท)
• คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ขนาด 1, 2 และ 3 ห้องนอนทั้งสิ้น 16 อาคารในเฟสแรก (ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 15 ล้านบาท) มีสวนส่วนตัวบนดาดฟ้าสำหรับยูนิตเพนต์เฮาส์
• โรงแรมบันยันทรี
• Veya Wellness Resort

โดยการพัฒนา แบ่งออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรก ช่วง ปี 2023-2025 (คอนโดฯ) ส่วนเฟส 2 โรงแรม วิลล่า และคอนโดฯ ช่วงปี 2025-2028 ทั้งนี้ ลูกบ้าน โครงการบันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ จะได้รับสิทธิประโยชน์เอ็กซ์คลูซีฟของเครือบันยันทรี “The Sanctuary Club” เช่น เอกสิทธิ์พิเศษและส่วนลดของบริการในเครือข่ายบันยันทรี 77 แห่ง ทั่วโลก

มอเตอร์เวย์ /รถไฟความเร็วสูง ยกระดับ เมือง “เขาใหญ่”

ผู้บริหาร เครสตั้น โฮลดิ้ง เชื่อว่า โครงการนี้ จะยกระดับความเป็นเมืองของเขาใหญ่ พร้อมๆ กับ ปัจจัยบวก แง่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการของรัฐ อย่าง มอเตอร์เวย์ และรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-โคราช ที่กำลังจะแล้วเสร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทำให้ระยะเวลาเดินทาง จาก กทม. ไปเขาใหญ่ เหลือเพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมง คล้ายภาพที่เคยเกิดขึ้นในญี่ปุ่น โตเกียว-นาโกยา-โอซาก้า เทียบเคียง กรุงเทพฯ-ปากช่อง-โคราช ก่อเกิดการเคลื่อนย้าย การอยู่อาศัยของคนที่ทำงานในกทม. เพราะสามารถเดินทางไป-กลับ ได้เพียงแค่ 45 นาทีเท่านั้น 

ขณะผลที่ตามมาอีกประการ คือ คาดว่า จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในแง่การท่องเที่ยวให้กับเขาใหญ่ด้วย จากเดิม ที่มีนักท่องเที่ยวคนไทยเป็นหลัก โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียงแค่ 1% เท่านั้น แต่หลังจาก มีรถไฟความเร็วสูง อาจมีสัดส่วนของต่างชาติ เพิ่มเป็น 20% ได้ไม่ยาก ฉะนั้น จะทำให้เมืองเกิดการเปลี่ยนแปลง และราคาที่ดินสูงขึ้นอย่างประเมินค่าไม่ได้ นี่เป็นเหตุผล ที่ทำให้ที่ดินเขาใหญ่เนื้อหอมในแง่การลงทุน เช่นเดียวกับโครงการนี้ที่จะยกระดับความโดดเด่นให้กับพื้นที่ และเรียกความนิยมจากนักลงทุนได้ไม่ยาก จากความเป็น Branded Residencesฃ

เขาใหญ่ เดสติเนชัน บ้านหลังที่ 2 / บ้านพักตากอากาศ 

ขณะ "สจ๊วต เรดดิ้ง" กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลุ่มบริษัทบันยันทรี ระบุ โครงการ Branded Residences ในเมืองไทย มีแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง 

ส่วนพื้นที่โดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถือเป็นพื้นที่ศักยภาพ ด้วยระยะทางที่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 200 กิโลเมตร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ การท่องเที่ยวแนวผจญภัย และอากาศที่บริสุทธิ์ เพราะเขาใหญ่ถือเป็นเดสติเนชันการพักผ่อนที่ดีที่สุด 

โครงการนี้ เปิดโอกาสทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัย และซื้อไว้ลงทุน เป็นบ้านพักอาศัยหลังที่สอง หรือบ้านพักตากอากาศ แนบชิดกับพื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก อุทยานฯ เป็นพื้นที่ทุ่งหญ้าและป่าฝนอันอุดมสมบูรณ์กว่า 2,000 ตารางกิโลเมตร

ด้านทำเลของโครงการยังเดินทางสะดวกด้วยทางด่วนมอเตอร์เวย์สายใหม่ที่ช่วยลดระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพฯ ได้อย่างมาก พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ และผู้ที่กำลังมองหาบ้านพักอาศัยหรือบ้านพักตากอากาศ

เชนโรงแรมดัง เชื่อมั่นอสังหาฯ ไทย ดึงลูกค้าต่างชาติ

ทั้งนี้ บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ ตั้งเป้าผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นชาวไทย รองลงมาเป็นชาวต่างชาติ เพราะเขาใหญ่เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะเดสติเนชันการพักผ่อนระดับโลก ทั้งยังสอดคล้องกับแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในปี 2566 โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงหนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวของเขตเมืองที่เพิ่มขึ้น ตามการคาดการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยใน 6 จังหวัดหลัก 

รวมถึงนครราชสีมาซึ่งเป็นที่ตั้งของเขาใหญ่จะเติบโตแข็งแกร่งขึ้นช่วงปี 2566-2568 ด้วยปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศจะกลับมามีจำนวนเท่าช่วงก่อนโควิด-19 ภายในปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์นครราชสีมาและเขาใหญ่ได้รับแรงหนุนจากบทบาทในการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ถนนมอเตอร์เวย์และเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่จะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายบ้านพักตากอากาศในอนาคต