“จีน” ลงทุนในไทย มากแค่ไหน? ภาพสะท้อน คู่พันธมิตร เชิงเศรษฐกิจเบอร์ 1

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

“จีน” ลงทุนในไทย มากแค่ไหน? ภาพสะท้อน คู่พันธมิตร เชิงเศรษฐกิจเบอร์ 1

Date Time: 30 ก.ย. 2566 10:00 น.

Video

จาก "รวยเงิน จนเวลา" สู่เกษียณ 35! ของพอล ภัทรพล? l Money Secret EP.13

Summary

นักลงทุนจีน แห่ปักหมุด ลงทุนในไทย 6 เดือนแรก ขึ้นแท่นแซงญี่ปุ่น เป็น เบอร์ 1 ยอดขอ BOI พุ่ง! 6 หมื่นล้าน อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า - อิเล็กทรอนิกส์ มาแรง ภาพสะท้อน มองไทย เป็นพันธมิตรเชิงเศรษฐกิจสำคัญ

Latest


การฟื้นตัวของประเทศจีน หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 มิหนำซ้ำยังมีวิกฤติในภาคอสังหาริมทรัพย์ แม้ถูกมองว่า เป็นเรื่องที่ท้าทาย และ น่าเฝ้าติดตาม ว่าจีนจะดึงตัวเองกลับมาผงาด ในเวทีโลก อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ได้เมื่อไหร่? 


อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทย เรียกว่า “จีน” กับ “ไทย” นั้น มีบทบาท และมิติความสำคัญต่อกันมากมายมาตั้งแต่อดีต สถานะของจีนวันนี้ จึงเป็นทั้ง กลุ่มนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของประเทศไทย (ก่อนโควิด) และ เป็นอันดับ 1 ด้านการค้า (ไทยส่งออกสินค้าไปจีน 1.19 ล้านล้านบาท และนำเข้าจากจีนถึง 2.49 ล้านล้านบาท) มาโดยตลอด

ขณะเดียวกัน ไทยเอง ยังสามารถดึงดูดนักลงทุนจากจีน เข้ามาได้อย่างมาก จะเห็นได้จากตัวเลขการขอส่งเสริมการลงทุน (BOI) ล่าสุด ที่สูงสุดในรอบ 10 ปี โดยมีกลุ่มนักลงทุนจากประเทศจีนมาเป็นอันดับ 1 จากเดิมเป็นญี่ปุ่น ยิ่งทำให้ไทยมีความสมดุลในเรื่องของการลงทุนมากขึ้น และ สะท้อนได้ว่า จีนมองไทยเป็นทั้งคู่ค้าที่สำคัญ และ เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ ที่มีผลต่อการเติบโตของธุรกิจต่างๆ ของเขาด้วยเช่นกัน 


หากพิจารณาถึงเหตุและผล ก็คงเนื่องมาจากจุดแข็งของประเทศไทย ที่มีดีทั้งด้านความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากรที่มีคุณภาพ อุตสาหกรรมสนับสนุนที่แข็งแกร่ง และศักยภาพการเป็นศูนย์กลางในหลายๆ ด้านของอาเซียน รวมถึงนโยบายสนับสนุนต่างๆ ของภาครัฐ 


เช่น การส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ต้นน้ำ ดิจิทัล และพลังงานสะอาด นี่เอง ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก อย่างจีน ตัดสินใจเลือกใช้ไทยเป็นฐานลงทุนธุรกิจใหม่ๆ 

ข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) เผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 2566) มีโครงการ ที่ต่างชาติ ยื่นขอรับการส่งเสริมฯ รวมทั้งสิ้น 891 โครงการ เพิ่มขึ้น 18% และมีมูลค่าเงินลงทุน 364,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69% 


โดยนักลงทุนจากจีน สูงเป็นเบอร์ 1 ด้วยมูลค่าเงินลงทุนมากที่สุด 61,526 ล้านบาท จากมากถึง 132 โครงการ ส่วนใหญ่ลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะ การเข้ามาลงทุน ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าการลงทุนกว่า 50,000 ล้านบาท 


ข้อดี ที่จะเกิดขึ้น ก็คือ การเข้ามาของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนนี้ จะช่วยเพิ่มความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และยังเป็นฐานผลิตเพื่อการส่งออกของภูมิภาค เช่น

  • บริษัท บีวายดี ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของจีน ประกาศลงทุนในไทยมูลค่ากว่า 1.79 หมื่นล้านบาท เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • บริษัท ฉางอัน ออโตโมบิล ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน ได้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน เฟสแรกมูลค่ากว่า 8,800 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งฐานการผลิต รถยนต์พวงมาลัยขวาทั้งประเภท BEV, PHEV, REEV (Range Extended EV) 
  • บริษัท GAC AION จะใช้เงินลงทุนในเฟสแรกกว่า 6,000 ล้านบาท 
  • บริษัท สโฟวล์ท เอเนอจี้ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของจีน เลือกไทยเป็นฐานและตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถ EV ในไทย และเป็นแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน มีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท


สอดคล้องกับรายงานข่าว ที่ระบุว่า จากการหลั่งไหลเข้ามาลงทุนของต่างชาติ โดยเฉพาะ กลุ่มทุนจากจีน ในไทย ทำให้ความต้องการซื้อที่ดินกลับมาสูงขึ้น โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ประเทศไทยต้องการส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรม New S-curve 


ขณะย้อนหลัง 4 ปีที่ผ่านมา ก็มีความน่าสนใจเช่นกัน โดย ช่วงปี 2562 มีนักลงทุนจีน ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI มากถึง 203 โครงการ ส่วนปี 2563 แม้เจอเหตุการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ยังมีนักลงทุนยื่นขอลงทุน 164 โครงการ ส่วนปี 2564 ที่ 112 โครงการ และ ช่วงปีที่ผ่านมา มีมากถึง 158 โครงการ 


เจาะปัจจัยที่มีผลต่อนักลงทุนจีนในไทย ครั้งหนึ่ง นักธุรกิจชาวไทยที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการทำธุรกิจกับประเทศจีน อย่าง “วิกรม กรมดิษฐ์” ผู้ก่อตั้ง อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เคยชี้ว่า ไม่ว่าจะเป็น ปัจจัยต้นทุนที่ถูก เพราะประเทศไทยมีวัตถุดิบของตัวเอง ก็เป็นส่วนส่งเสริมดึงดูดให้ชาวจีน แห่ตั้งโรงงานในไทย เช่น โรงงานผลิตยางรถยนต์ เพราะเรามียางพาราส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลก รวมถึง ราคาที่ดินที่ถูก สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ได้รับจากการลงทุนในไทย เช่น สิทธิ BOI อีกทั้ง การส่งออกจากไทย ไปต่างประเทศ ไม่มีปัญหา เพราะ ไทย ไม่ได้ถูกควบคุมตลาด


ส่วนประโยชน์ที่ไทยจะได้รับ จากจีนที่เข้ามาลงทุนนั้น มีมากมาย เช่น  

  • ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
  • สร้างงาน แรงงานไทย 
  • ถ่ายทอด ความรู้วิชาชีพ เทคโนโลยีใหม่ๆ 
  • สร้างมูลค่าเพิ่มและใช้วัตถุดิบในไทย เช่น น้ำยางดิบ ผลิตยางรถยนต์

มาถึงตรงนี้ ต้องบอกว่า จีนเริ่มก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก โดยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีฐานะเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภครายใหญ่ของโลก และอีกบทบาทที่สำคัญของจีน ก็คือการเป็นนักลงทุนที่มีเม็ดเงินมหาศาลลงทุนในประเทศต่างๆ ซึ่งแนวโน้มการลงทุนของจีนในไทยข้างต้น ก็แสดงความเชื่อมั่นให้เห็นว่า จีนมองไทยมีศักยภาพ ที่จะใช้ปักฐานเป็นศูนย์กลางขยายสู่ตลาดอาเซียนด้วย 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ