อย่าแจกเงินหมื่นแบบหว่านแห แนะ “เพื่อไทย” รีบกระตุ้นเศรษฐกิจทันที

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

อย่าแจกเงินหมื่นแบบหว่านแห แนะ “เพื่อไทย” รีบกระตุ้นเศรษฐกิจทันที

Date Time: 16 ส.ค. 2566 08:36 น.

Summary

หอการค้าไทย หวัง “พรรคเพื่อไทย” จัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ไม่เกินเดือน ก.ย.นี้ ชี้ต้องมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทันที เช่น คนละครึ่ง หรือแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท แนะต้องทำแบบพุ่งเป้า ช่วยเฉพาะกลุ่มที่เดือดร้อนหรือจำเป็น ไม่หว่านแห เพราะอาจเป็นภาระการคลัง เหตุใช้เงินมากถึง 5 แสนล้าน

Latest

คาดปี 69 คนจีนกลับมาเที่ยวไทยเกือบ 9 ล้านคน

หอการค้าไทย หวัง “พรรคเพื่อไทย” จัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ไม่เกินเดือน ก.ย.นี้ ชี้ต้องมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทันที เช่น คนละครึ่ง หรือแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท แนะต้องทำแบบพุ่งเป้า ช่วยเฉพาะกลุ่มที่เดือดร้อนหรือจำเป็น ไม่หว่านแห เพราะอาจเป็นภาระการคลัง เหตุใช้เงินมากถึง 5 แสนล้าน

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาคเอกชนเห็นทิศทางชัดเจนมากขึ้นของการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้ง แต่สิ่งสำคัญคือเสถียรภาพของรัฐบาล ที่จะต้องมีเสียงเพียงพอและเข้มแข็ง เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความต่อเนื่อง

อีกทั้งยังมั่นใจว่าน่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ได้ภายในเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่ช้าเกินไป สำหรับเศรษฐกิจไทยยังคงน่ากังวล โดยเฉพาะกำลังซื้อของประชาชน ที่สะท้อนจากการซื้อสินค้าคงทนตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย.มีแนวโน้มลดลง เป็นสัญญาณว่าประชาชนไม่มีรายได้และระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น

ดังนั้น จำเป็นต้องมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทันทีเช่นเดียวกับที่เคยทำในช่วงที่ผ่านมา เช่น โครงการคนละครึ่ง เพื่อดึงกำลังซื้อประชาชนให้กลับมา หรือนำเอานโยบายที่ใช้หาเสียงอย่างแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท มาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจแบบทันทีในหลักการสามารถทำได้ แต่ต้องประเมินผลความคุ้มค่าในแง่เศรษฐกิจให้ชัดเจนและรอบด้าน เพราะเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณมหาศาล

อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทยมีข้อคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าว ดังนี้ 1.การอัดฉีดเม็ดเงินไปยังกลุ่มผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป น่าจะอยู่ราวๆ 50 ล้านคน หากใช้เงิน 10,000 บาทต่อคนจะต้องใช้งบประมาณราว 500,000 ล้านบาท ซึ่งหากเงินถึงมือประชาชนโดยตรง จะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว

“หอการค้าฯประเมินว่า เม็ดเงินทุกๆ 100,000-150,000 ล้านบาท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 1% ดังนั้น นโยบายนี้น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เพิ่มขึ้นได้ประมาณ 2.5-3% เกิดเม็ดเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจ 3-4 รอบ แต่นโยบายนี้ ยังมีข้อเป็นห่วงจากหลายฝ่าย ทั้งในเรื่องที่มาของแหล่งงบประมาณ จะกระทบต่อฐานะการคลังเพียงใด ซึ่งจะต้องมีความชัดเจนในส่วนนี้”

นอกจากนี้ หอการค้าไทยขอให้พิจารณาแนวทางการใช้นโยบายสนับสนุนและจูงใจผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีให้ถูกต้องมากขึ้น เพราะร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าสู่ระบบภาษีที่ถูกต้อง เพื่อเป็นการขยายฐานภาษีและจัดเก็บรายได้ให้กับประเทศเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป

2.พิจารณาแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทแบบพุ่งเป้าไปยังกลุ่มที่เดือดร้อนหรือมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องได้รับการช่วยเหลือก่อน เพราะจะได้ไม่ต้องใช้งบประมาณที่สูงจนเกินไป และนำงบประมาณบางส่วนไปใช้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การจ้างงาน หรือการลงทุนในสาธารณ ประโยชน์ ภายใต้การคำนึงถึงความคุ้มค่าและไม่สร้างภาระทางการคลังของประเทศ

“หอการค้าไทยยังคงเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสเติบโตได้ 3.0-3.5% และปีหน้าจะเติบโตอย่างเต็มที่จากแรงขับเคลื่อนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ดังนั้น หวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว เรียบร้อย และมีเสถียรภาพ เพื่อให้สามารถดำเนินนโยบายต่างๆ ในการเดินหน้าเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง”

สำหรับผู้ที่จะมาเป็น รมว.คลังนั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และเป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วนว่าจะสามารถนำเสนอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตอบโจทย์ประชาชนอย่างรวดเร็วและตรงจุด.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ