"บิ๊กตู่" โวเศรษฐกิจวันนี้ไม่ธรรมดา ความเสี่ยงกระทบเชื่อมั่นไทยแค่ระยะสั้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ได้สรุปสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ ไตรมาสแรกปี 2566 พบว่า การจ้างงานเพิ่มขึ้น 2.4% อัตราการว่างงานอยู่ที่ 1.05% ขณะที่หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 3.5% แต่เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง คิดเป็นสัดส่วน 86.9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะเดียวกัน เมื่อสิ้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา รัฐวิสาหกิจ 43 แห่ง มีการเบิกจ่ายงบลงทุน 94,834 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเบิกจ่าย 109% ของเป้าหมาย และคิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายงบลงทุน 35% ของงบลงทุนรวมทั้งปี

ขณะเดียวกัน ยังได้รับรายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ประเทศไทยของฟิตซ์ เรตติ้ง ว่าความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองและการคลังภายหลังการเลือกตั้ง อาจจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในระยะสั้นประกอบกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ล่าช้า จึงเป็นเดือนที่เขาจับตาดูประเทศไทยอยู่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยยังได้รับความเชื่อถือจากกรอบนโยบายเศรษฐกิจที่มีเอกภาพ การฟื้นตัวของภาคเอกชนและการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

“เหล่านี้ คือสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในปัจจุบัน ก็ขอให้ติดตามดูต่อไปทุกอย่างมันดีขึ้นหมด นอกจากนี้ อัตราเงินบาทอ่อนค่าลงนิดหน่อย ทั้งนี้ ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะในช่วงนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล อะไรก็แล้วแต่ถือว่าเราทำได้ดี ขอชมเชยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ได้บริหารงานต่างๆด้วยความเรียบร้อยทำให้สถานะการเงินแข็งแกร่ง ขณะที่ต่างประเทศมีปัญหาอยู่หลายประเทศด้วยกัน เช่น ประเทศสหรัฐฯ ประเทศเกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย ยังมีปัญหาอยู่”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งให้รายงานเข้ามาทุกสัปดาห์ วันนี้สภาพอากาศไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองใน กทม.ทุกเขตดีมาก เพราะฝนตกด้วย และทุกหน่วยงานช่วยกันกำกับดูแลในเรื่องการจราจร ทำให้สภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก เข้าสู่ช่วงฤดูฝนน่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือประชาชนด้วย ขอให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบจราจร ย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอดทุกอย่างต้องเดินหน้าไปตามยุทธศาสตร์ของเราใน PM2.5 เพราะพูดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำไปด้วย.