
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 1 ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเร่งรัดและติดตามการดำเนินการตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 หรือกฎหมายซิมผี-บัญชีม้าว่า หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 17 มี.ค.66 พบว่า สถิติการเกิดคดีออนไลน์ลดลงเมื่อเปรียบเทียบก่อนมีกฎหมาย และสามารถอายัดบัญชีคนร้ายได้มากขึ้น
โดยสถิติคดีออนไลน์ในช่วงก่อนออกกฎหมาย มีคดีอยู่ที่เฉลี่ยวันละ 790 เรื่อง หลังออกกฎหมายเหลือเฉลี่ยวันละ 661 เรื่อง หรือคดีลดลงเฉลี่ยวันละ 129 เรื่อง ส่วนการอายัดบัญชีธนาคาร เดิมอายัดได้ทัน 6.5% ของความเสียหายที่มีการเข้าแจ้งความ แต่หลังกฎหมายบังคับใช้ อายัดได้เพิ่มขึ้นเป็น 20% ซึ่งสถิติคดี 5 ประเภทที่เกิดขึ้นมากที่สุด ได้แก่ 1.หลอกขาย สินค้า 2.หลอกทำงานออนไลน์ 3.แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4.หลอกให้กู้เงิน และ 5.หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์
ส่วน พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวว่า ภายใต้กฎหมายซิมผี-บัญชีม้า ผู้เสียหายยังสามารถเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นในท้องที่เกิดเหตุอีกต่อไป ซึ่ง สตช.ได้เตรียมความพร้อมตำรวจมากกว่า 20,000 นาย เพื่อรองรับภาระหน้าที่ดังกล่าว
ด้านนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ได้แต่งตั้งคณะทำงานกำหนดรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งควรได้รับการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หรือเจ้าของบัญชีม้าแล้ว ขณะนี้มีการกำหนดรายชื่อประเภทรายชื่อบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐาน หรือเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคารที่ถูกใช้ในการกระทำความผิดมูลฐาน กรณีที่พนักงานสอบสวนยังไม่รับเป็นเลขคดีอาญา (รหัส HR-03-2) จำนวน 1,581 รายชื่อ และได้แจ้งรายชื่อบัญชีต้องสงสัยให้สถาบันการเงินเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการทำธุรกรรมการเงินที่อาจสร้างความเสียหายต่อไป จำนวน 988 รายชื่อ.