
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่อง กำหนดให้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นแหล่งน้ำสาธารณะ พ.ศ.2566 โดยกำหนดให้แม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่จุดสิ้นสุดของแม่น้ำที่กิโลเมตร (กม.) ศูนย์ขึ้นไปทางตอนเหนือจนถึงจุดเริ่มต้นของแม่น้ำที่ กม.384 เป็นแหล่งน้ำสาธารณะสอดรับกับกฎกระทรวงฉบับที่ 25 (พ.ศ.2559) ที่ระบุให้มีการกำหนดระยะห่างระหว่างพื้นที่ที่จะตั้งหรือขยายโรงงานกับแหล่งน้ำสาธารณะ โดยในระยะไม่เกิน 100 เมตร ห้ามตั้งและขยายโรงงานอุตสาหกรรมจำพวกที่ 3 (โรงงานที่ต้องขออนุญาตก่อนเปิดกิจการ และมีแรงม้าตั้งแต่ 75 แรงม้าขึ้นไป) แต่สามารถขยายโรงงาน 101 (โรงงานรับบำบัดน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม) ที่รับเฉพาะน้ำเสียจากชุมชน หรือขยายโรงงาน เพื่อปรับปรุงระบบบำบัดมลพิษของโรงงาน ในระยะเกินกว่า 100 เมตรถึง 500 เมตร สามารถตั้งและขยายโรงงานจำพวกที่ 3 ได้ แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไข ดังนี้
1.ต้องมีการจัดการน้ำเสียภายในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งต้องไม่มีการระบายน้ำทิ้งออกนอกโรงงาน 2.หากขยายโรงงานในพื้นที่เดิม ต้องมีการระบายปริมาณน้ำทิ้งไม่เกินกว่าที่เคยได้รับอนุญาตไว้ ในส่วนของโรงงาน 101 ที่รับเฉพาะน้ำเสียจากชุมชน สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้และสามารถระบายน้ำทิ้งออกนอกโรงงานได้ พร้อมเตรียมยกเลิกประกาศ อก. เรื่องมาตรการควบคุมความสกปรกของน้ำทิ้งจากภาคอุตสาหกรรมเพื่อฟื้นฟูคุณภาพในแม่น้ำเจ้าพระยา พ.ศ.2551 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนในการบังคับใช้กฎหมาย
“โรงงานที่จะบังคับใช้ประกาศฉบับนี้อยู่ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ และโรงงานที่ตั้งอยู่ก่อนหน้าที่ประกาศ อก. เรื่องกำหนดให้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นแหล่งน้ำสาธารณะ พ.ศ.2566 มีผลบังคับใช้จะไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องของการตั้งโรงงาน แต่จะได้รับผลกระทบในกรณีที่มีแผนจะขยายโรงงานพื้นที่นอกเหนือจากระยะที่กำหนด สามารถตั้งและขยายโรงงานได้ตามปกติ โดยต้องปฏิบัติตามประกาศ อก. เรื่องกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงาน พ.ศ.2560 ซึ่งกำหนดค่ามาตรฐานน้ำทิ้งที่ระบายออกนอกโรงงานอย่างเคร่งครัด”.