ครม.ไล่อนุมัติงบที่ต้องใช้ระหว่างยุบสภา หวั่นเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่มีเงินช่วยประชาชน ล่าสุด 7 มี.ค.นี้ มหาดไทยชงขอ 3,190 บาท ช่วยค่าไฟฟ้าผู้มีรายได้น้อยใช้ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน พร้อมเปิดวงเงินดูแลบัตรคนจน รวมงบรายปีและเงินกู้โควิดสูงถึง 422,405 ล้านบาท
นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 7 มี.ค.นี้ กระทรวงมหาดไทยจะเสนอของบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นปี 66 วงเงิน 3,190 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นงบประมาณดูแลค่าครองชีพในส่วนของค่าไฟฟ้าของประชาชนที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย ในงวดปัจจุบันคือตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.66 โดยงบประมาณส่วนนี้จะใช้ช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่รัฐบาลยุบสภาแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังยุบสภารัฐบาลรักษาการยังปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหลายเดือน หากจำเป็นต้องของบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉิน เพื่อดูแลประชาชนเพิ่มเติมจากวงเงินที่เคยอนุมัติไว้แล้ว รัฐบาลสามารถยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้อนุมัติเป็นกรณีก่อนนำเรื่องเสนอ ครม. โดยปัจจุบันงบกลางเหลือไม่มากนัก ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันในปี 65 แต่มั่นใจว่า เพียงพอใช้ดูแลประชาชนหากเกิดภัยธรรมชาติ เช่น อุทกภัย ภัยแล้ง
ส่วนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 ที่อาจไม่สามารถใช้ได้ทันวันที่ 1 ต.ค.66 เพราะเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลชุดใหม่ จะต้องเบิกใช้งบภายใต้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 ไปพลางก่อน ซึ่งสำนักงบประมาณประเมินไว้ว่า จะมีช่วงที่ใช้งบประมาณไปพลางก่อน 4-6 เดือน เพราะกว่าจะมีรัฐบาลใหม่คือ ช่วงเดือน ส.ค.66 และกว่าจะทบทวนการจัดทำงบประมาณปี 67 เสร็จก็อาจล่วงเลยไปถึงเดือน ม.ค.67 และประกาศใช้ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายปี 67 ได้ช่วงเดือน ก.พ.67 ซึ่งในช่วงที่ใช้งบประมาณไปพลางก่อน การเบิกจ่ายจะไม่สามารถทำได้เกินกว่ากรอบงบประมาณ ในปีงบประมาณ 66 และไม่สามารถอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างโครงการลงทุนใหม่ได้
สำหรับวงเงินที่ใช้ดูแลผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ ครม.สัปดาห์ก่อนได้อนุมัติงบเพิ่มเติม 9,140 ล้านบาท เนื่องจากในกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่มีวงเงิน 51,276.79 ล้านบาท คงไม่เพียงพอ แต่เมื่อรวมกับงบที่ได้อนุมัติเพิ่มจะครอบคลุมวงเงินที่ต้องใช้ทั้งสิ้น 65,413.80 ล้านบาท เพื่อดูแลผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.59 ล้านคนในปีนี้ ส่วนกรณีที่พรรค การเมืองหาเสียง เพิ่มเงินในสวัสดิการแห่งรัฐที่ 700-1,000 บาทต่อคนต่อเดือนนั้น คงต้องดูหลังเลือกตั้ง พรรคการเมืองจะนำสิ่งที่ได้หาเสียงไว้มาทำจริงหรือไม่ ซึ่งหากจะนำมาใช้ ต้องหารือกับหลายภาคส่วนและดูงบประมาณที่ต้องนำไปใช้ในอีกหลายโครงการและหลายแผนงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาอนุมัติ เงินงบประมาณเพื่อใช้ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ต่อเนื่อง 6 ปีงบประมาณ ตั้งแต่ปี 61-66 รวม 333,229 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมวงเงินอนุมัติจากเงินกู้ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯในช่วงโควิด-19 วงเงินรวม 89,175 ล้านบาท รวมแล้วรัฐบาลอนุมัติวงเงิน 422,405 ล้านบาท โดยเงินกู้โควิด-19 มาจาก พ.ร.ก.เงินกู้โควิดฯ ปี 63 วงเงิน 64,018 ล้านบาท และ พ.ร.ก. เงินกู้โควิด ปี 64 วงเงิน 25,156.68 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้เงินในโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงโควิด-19.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง