ข่าวดีท่ามกลางมรสุมเศรษฐกิจ กอบศักดิ์ คาดครึ่งปีหลัง 65 เงินเฟ้อจะดีขึ้น

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ข่าวดีท่ามกลางมรสุมเศรษฐกิจ กอบศักดิ์ คาดครึ่งปีหลัง 65 เงินเฟ้อจะดีขึ้น

Date Time: 20 ก.ค. 2565 17:52 น.

Video

อย่ากลัว! วิกฤติใหญ่ยังไม่เกิด หาโอกาสลงทุน กับ กวี ชูกิจเกษม | Thairath Money Night Stand EP.21

Summary

ข่าวดีท่ามกลางมรสุมเศรษฐกิจ วิกฤติ Perfect Storm กอบศักดิ์ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย คาดครึ่งปีหลัง 65 เงินเฟ้อจะดีขึ้น

Latest


ข่าวดีท่ามกลางมรสุมเศรษฐกิจ วิกฤติ Perfect Storm กอบศักดิ์ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย คาดครึ่งปีหลัง 65 เงินเฟ้อจะดีขึ้น

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 65 นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO ประเมินว่า ทิศทางเงินเฟ้อของโลกน่าจะเริ่มลดลงในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลายลง แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนเงื่อนไขไม่มีสถานการณ์พลิกผัน โดยเฉพาะสงครามลุกลามบานปลาย

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อเงินเฟ้อ เปลี่ยนไปจากช่วงต้นปี โดยเฉพาะราคาน้ำมันโลกเริ่มลดลง แกว่งตัวอยู่ในระดับประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ใกล้เคียงกับช่วงก่อนที่เปิดฉากสงคราม

โดยผลดีที่เริ่มเห็นตามมา คือ ราคาน้ำมันหน้าปั๊มลดลง โดยในประเทศไทย ราคาเบนซิน 95 จาก 52 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ 45 บาทต่อลิตร ส่วนในสหรัฐ ราคาน้ำมันหน้าปั๊มที่เคยขึ้นไปที่มากกว่า 5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ขณะนี้ลดลงต่ำกว่า 4.5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน เป็นครั้งแรกนับแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เรื่องนี้มีนัยต่ออัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) ของสหรัฐ เพราะองค์ประกอบของหมวด Energy มีสัดส่วน 8.7% ของทั้งหมด และหมวดย่อย Energy Commodities มีสัดส่วน 5.2% เป็นหัวใจหลักที่ทำให้เงินเฟ้อพุ่งในช่วงที่ผ่านมา อย่างเดือน มิ.ย.65 อัตราเงินเฟ้อสหรัฐ +9.1% มาจากการที่หมวด Energy +42% และ หมวดย่อย Energy Commodities +61%

หากราคาน้ำมันหน้าปั๊มในสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับนี้ หรือลดลงอีกเล็กน้อย ก็จะทำให้แรงกดดันต่อเงินเฟ้อรวมที่มาจากหมวดย่อย Energy Commodities นี้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี โดยหากอยู่ที่ 4.5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หมวดย่อยนี้จะอยู่ที่ +30% ในช่วงต้นไตรมาส 4/65 หรือหากอยู่ที่ 4 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หมวดย่อยนี้จะอยู่ที่ +20% และหากอยู่ที่ 3.5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หมวดย่อยนี้จะอยู่ที่ +3% ช่วยให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลงได้

นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะขึ้นสู่จุดสูงสุด (Peak) แล้ว เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มาช่วยลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อเพิ่มเติมด้วย

1. ราคาสินค้าโลหะโลก ที่ได้ปรับลดลงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งโลหะมีความสำคัญอย่างยิ่งกับการผลิตอุปกรณ์และเครื่องจักรต่างๆ รวมไปถึงภาคก่อสร้าง

2. ราคาธัญพืชและอาหารโลกที่เริ่มปรับตัวลดลงบ้างในบางหมวดสินค้า

3. ดอกเบี้ยที่เริ่มเพิ่มขึ้น จากการเร่งปรับดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ช่วยส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในบางด้านเริ่มชะลอลง เช่น ภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่เริ่มร้อนแรงลดลงมาก หลังดอกเบี้ย Mortgage ปรับตัวขึ้นสูง

4. ที่สำคัญสุด คือ ความกังวลใจของทุกคนว่า สงครามของธนาคารกลางกับเงินเฟ้อ จะนำไปสู่ Recession ในอนาคต และอาจจะลุกลามเป็น Global Recessions ทำให้ทุกคนเริ่มลดการใช้จ่าย ชะลอการจ้างงาน บางแห่งประกาศลดคนงานลง

ทั้งหมดนี้ หมายความว่า ปัจจัยสำคัญๆ ที่เป็นแรงกดดันต่อเงินเฟ้อเริ่มคลี่คลาย และจะนำไปสู่การปรับตัวลดลงของเงินเฟ้อในช่วงครึ่งหลังของปี

อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อเริ่ม Peak จะเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น หลังจากนั้น ก้าวต่อไปที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดก็คือ ก้าวที่สอง - เงินเฟ้อลดลงเร็วแค่ไหน หรือค่อยๆ ลดลงจาก Peak และ ก้าวสาม - เงินเฟ้อจะกลับมาที่ 3-4% เมื่อใด ก้าวสี่ - เงินเฟ้อกลับมาที่เป้าหมาย 2% หรือไม่

ทั้งนี้ พัฒนาการของทั้งสี่ก้าวนี้จะมีนัยต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง เพราะสิ่งที่เป็นเป้าหมายของธนาคารกลาง ไม่ใช่เงินเฟ้อ Peak ไม่ใช่เงินเฟ้อลด ไม่ใช่เงินเฟ้อที่ 3-4% แต่เป็นการกดเงินเฟ้อกลับมาที่ 2% อีกครั้งโดยช่วงที่ยากสุด น่าจะเป็นการลดลงจาก 3-4% กลับมาที่ 2% เพราะเงินเฟ้อ 3-4%

สุดท้าย น่าจะมาจากหมวดอื่นๆ ใน Core inflation หากเงินเฟ้อดื้อแพ่ง ไม่ยอมลง ธนาคารกลางก็ต้องขึ้นดอกเบี้ยไป จนกระทั่งเงินเฟ้อยอมสยบ กลับมาที่ 2% หมายความว่า แม้เงินเฟ้อจะ Peak แต่เรายังจะเห็นธนาคารกลาง จ่ายยาแรงไปอีกระยะ

ที่สำคัญ ธนาคารกลางอาจต้องขึ้นดอกเบี้ยไปไกลกว่าที่ทุกคนคาด จากที่เคยพูดกันว่าเฟดจะขึ้นไปที่ 3.8% แล้วจบ อาจจะไม่พอสำหรับความท้าทายรอบนี้ แต่ทั้งหมดนี้แม้หนทางจะยังอีกยาวไกล อย่างน้อยที่สุดเงินเฟ้อที่ Peak จะเป็นข่าวดีแรกที่นำไปสู่การคลี่คลายวิกฤติ Perfect Storm


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ