จ่อลดภาษีดีเซลต่อ 2-3 เดือน “บิ๊กตู่” จี้คลัง-พลังงานส่งการบ้าน ครม.สัปดาห์หน้า

นายกฯ เผยกำลังพิจารณาต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตร ที่จะหมดวันที่ 20 พ.ค.นี้ ส่วนจะลดแค่ไหน นานเท่าใด สั่งพลังงานศึกษาเสนอต่อ ครม.สัปดาห์หน้า ด้าน “สุพัฒนพงษ์” โยนคลังหาแนวทางลดภาษี “คลัง” ขอดูสถานการณ์ราคาน้ำมัน คาดคงต่อสั้นๆ ครั้งละ 2-3 เดือน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมาตรการการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตรที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ว่า จะมีการต่ออายุการลดภาษีน้ำมันดีเซลต่อไป แต่จะต่ออย่างไร ลดตอนไหน และเมื่อไหร่นั้น กำลังพิจารณาอยู่ โดยพยายามจะทำให้ได้มากที่สุด และตัดสินใจก่อนหมดระยะเวลาที่รัฐบาลพยุงราคาน้ำมันดีเซลอยู่ ซึ่งคงต้องนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้า

การทำงานต้องมีขั้นมีตอนเข้าใจกันหรือไม่ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆรัฐบาลจะลดให้อย่างเดียว ผมพูดอะไรก็ได้ เดี๋ยวให้ลดแล้วใครรับผิดชอบ พวกเราทั้งหมดใช่หรือไม่ที่ต้องร่วมกันรับผิดชอบ วันนี้ ผมบอกว่าผมจะดูมาตรการการลดภาษีสรรพสามิตภาษีน้ำมันลงอีกได้หรือไม่ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบอกว่าพอได้ ผมก็บอกว่าขอให้พิจารณาให้ทันเวลาที่เหลืออยู่ก็แล้วกัน ซึ่งกระทรวงพลังงานกำลังพิจารณาและนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ซึ่งการลดอาจจะช่วยพยุงราคาไว้ได้บ้าง ที่พูดไม่ได้โมโหนะนี่ แต่เงินที่ได้มาจากภาษีสรรพสามิตก็ต้องนำมาทำอย่างอื่นด้วย จึงจำเป็นต้องดูอย่างรอบคอบ ซึ่งการจะกำหนดมาตรการต่างๆจำเป็นต้องดูสถานการณ์ 2-3 เดือน แล้วก็ดูจากสถานการณ์พลังงานของโลกด้วย จำเป็นต้องพิจารณาโดยคำนึงถึงปัจจัยหลายๆส่วน วันนี้ก็เป็นห่วงในเรื่องของราคาน้ำมันพืช อาหารสัตว์ ปุ๋ย ยอมรับว่าห่วงไปทุกเรื่องเพราะไม่ใช่สถานการณ์ปกติ

“ตอนนี้มีอยู่อย่างที่เริ่มจะดีขึ้นคือ การท่องเที่ยว ขอร้องว่าเราอย่าทำให้มันเสียกันเองก็แล้วกัน ต้องดูแลนักท่องเที่ยวต้องเป็นเจ้าภาพที่ดีเป็นเจ้าบ้านที่ดีให้การบริการที่ดี ขอร้องบรรดาสถานประกอบการธุรกิจต่างๆ ขอให้ความร่วมมือด้วยดูแลลูกค้าให้ดี อย่าไปขึ้นราคาจนเกินเพื่อชดเชยในส่วนที่ขาดทุน วันนี้ก็เป็นห่วงผู้ประกอบการ ทั้งโรงแรมที่เป็นเจ้าของสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งโรงแรมสถานบริการที่เข้าไม่ถึงการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง ก็ได้ให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงิน เพื่อไปซ่อมแซมหรือปรับปรุงต่างๆ จะได้ไม่ทิ้งแรงงาน เพราะถ้าธุรกิจล้มก็เกี่ยวโยงกันไปทั้งหมด ลูกจ้างรายวันหรือรายเดือนก็จะไปหมด รัฐบาลเองก็ต้องดูทั้งข้างบน ตรงกลาง และข้างล่าง”

ด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตอนนี้กระทรวงการคลังกำลังดูเรื่องการลดภาษีน้ำมันดีเซลที่ลดอยู่ลิตรละ 3 บาท และกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ซึ่งจะนำไปหารือในที่ประชุม ครม.วันที่ 17 พ.ค.นี้ก่อน ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า เมื่อรองนายกฯสั่งมา กระทรวงการคลังก็ต้องนำไปพิจารณา โดยขอนำเอาข้อมูลทั้งหมดมาดูก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การขยายเวลาการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตรนั้น กระทรวงการคลังตัดสินใจจะขยายเวลาออกไประยะสั้นๆ 2 เดือนหรือ 3 เดือนก่อน และค่อยพิจารณาต่อไปตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลก เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวนขึ้นลงอย่างรวดเร็ว โดยหากราคายังทรงตัวในระดับสูง และมีความจำเป็นก็อาจจะต่อภาษีออกไป แต่หากราคาน้ำมันในตลาดโลกถูกลงก็อาจจะหยุดลดภาษี เพราะการลดภาษีดีเซลทุก 1 บาท จะทำให้รายได้ภาครัฐหายไปเดือนละ 1,900 ล้านบาท หากลดลิตรละ 3 บาทเหมือนที่ผ่านมา รายได้ก็จะหายไปเดือนละ 5,700 ล้านบาท ดังนั้น การลดภาษีจึงพิจารณาใช้ในยามจำเป็น อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับช่วงเดือน ก.พ.65 ที่มีการตัดสินใจลดภาษีดีเซลกับปัจจุบัน พบว่าราคาพลังงานยังทรงตัวระดับสูง ราคาน้ำมันดิบยังเกินลิตรละ 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่กองทุนน้ำมันฯก็มีภาระหนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 66,000 ล้านบาท และมีสภาพคล่องเหลือเพียง 12,900 ล้านบาท

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.เห็นชอบกรอบวงเงิน 1,724.95 ล้านบาท ในมาตรการให้ ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรค่า (เอฟที) ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือน (พ.ค.-ส.ค.2565) โดยผู้ใช้ไฟฟ้าดังกล่าวที่จ่ายค่าไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าจากการลดค่าเอฟทีที่ 0.2338 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นการดำเนินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มี.ค.2565 และ 19 เม.ย.2565.