
วาดฝันงดงาม เลิกตรวจ RT–PCR เกิดกระแสเดินทางเข้าไทย คาดต่างชาติไม่ต่ำ 10 ล้านคนมาเที่ยว โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมรายได้คนไทยเที่ยวกันเอง ปีนี้น่าจะทะลุ 1.3–1.5 ล้านล้านบาท ด้านหอการค้าไทยขอบคุณรัฐบาล มั่นใจการค้าการลงทุนกลับมาคึกคัก แต่ต้องเดินหน้าคนละครึ่งเฟส 5 ด้วย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันที่ 22 เม.ย.2565 เห็นชอบยกเลิกกฎการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR สำหรับนัก ท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ และลดวงเงินการประกันภัยเพื่อลดต้นทุนการเดินทาง ซึ่งจะช่วยสร้างกระแสใหม่ของการท่องเที่ยวข้ามพรมแดนกับมาเลเซีย ลาว กัมพูชา และเมียนมา โดยคาดว่าจะมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ 7-13 ล้านคน เมื่อรวมเป้าหมายการท่องเที่ยวคนไทยในประเทศอยู่ที่ 160 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 600,000 ล้านบาท จะทำให้ในปี 2565 มีรายได้รวมคนต่างชาติและคนไทย 1.3-1.5 ล้านล้านบาท
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า มติ ศบค.เห็นชอบปรับมาตรการเข้าประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 เป็น 2 รูปแบบ คือ คนที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ และคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบตามเกณฑ์ โดยยกเลิกเทสต์ แอนด์ โก ยกเลิกการตรวจ RT-PCR สำหรับคนที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ แต่ยังต้องลงทะเบียนผ่านระบบไทยแลนด์ พาส เพื่อตรวจสอบการฉีดวัคซีนและการทำประกันภัย วงเงิน 10,000 เหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากเดิมที่ 20,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับการตรวจ ATK หรือไม่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของนักท่องเที่ยว ส่วนคนฉีดวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ ให้แสดงผลตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก็เดินทางเข้าประเทศได้เหมือนระบบปกติ แต่ถ้าไม่มีต้องเข้าพักตามระบบในสถานที่กักกัน (AQ) เพื่อกักตัว 5 วัน ดังนั้น เชื่อว่าคนกลุ่มนี้คงเลือกวิธีตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงมากกว่า เพื่อไม่ถูกกักตัว
“มติ ศบค.ครั้งนี้ถือเป็นการปรับการเข้าประเทศเหมือนภาวะปกติ ตอนก่อนการแพร่ระบาด ไม่ต้องโหลดแอปพลิเคชันหมอชนะ ซึ่งทุกครั้งที่มีมติผ่อนปรนการเข้าประเทศ ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 4-5 เท่าตลอด ทำให้ปีนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาทแน่ ซึ่งยังไม่รวมนักท่องเที่ยวจีน ถ้าหากมีก็ถือเป็นโบนัส ต้องติดตามว่าในช่วงวันชาติจีนต้นเดือนต.ค. ทางรัฐบาลจีนตัดสินใจให้คนบางมณฑลออกเที่ยวนอกประเทศหรือไม่ โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-19 เม.ย.2565 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแล้ว 646,812 คน มากกว่าทั้งปี 2564 ที่มี 427,869 คน ส่วนผู้ติดเชื้อมี 0.46% ของผู้เดินทางผ่านระบบเทสต์ แอนด์ โก”
สำหรับการส่งเสริมคนไทยเที่ยวในประเทศ กรณีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 จำนวน 2 ล้านสิทธิ์ซึ่งหมดลงไปเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงได้พิจารณาดูวงเงินงบประมาณของโครงการนี้ที่เหลืออยู่ เพื่อนำเสนอต่อ รมว.การท่องเที่ยวฯและ ศบค.เพื่อจัดทำโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ต่ออีก 2 ล้านสิทธิ์ โดยนำเงินเก่ามาจัดทำ 1 ล้านสิทธิ์ และขอวงเงินใหม่อีก 1 ล้านสิทธิ์ ส่วนโครงการทัวร์เที่ยวไทยที่จะหมดเขตวันที่ 30 เม.ย.นี้ แต่มีสิทธิ์คงเหลือจำนวนมากกว่า 100,000 สิทธิ์ ได้หารือกับ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาที่จะขยายไปถึงเดือน ก.ย.2565
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขอขอบคุณรัฐบาลที่ยกเลิกการตรวจ RT-PCR ทั้งหมดก่อนเข้าประเทศ ซึ่งจะช่วยทำให้บรรยากาศการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในไทยกลับมาคึกคัก สำหรับประเด็นกระตุ้นเศรษฐกิจต่อนั้น ภาคเอกชนยังเสนอให้รัฐต่ออายุมาตรการคนละครึ่งเฟส 5 เพราะแม้ว่าประชาชนเริ่มจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น แต่ยังต่ำกว่าปกติ จึงควรเร่งกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโมเมนตัมทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นจากการคำนวณคนละครึ่งเฟส 5 หากรัฐโอนเงินให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ 30 ล้านคนคนละ 1,500 บาท จะใช้งบประมาณ 45,000 ล้านบาท ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 90,000 ล้านบาท ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้นได้อีก 0.63-0.65% ในปีนี้ และจะช่วยให้จีดีพีตลอดทั้งปีนี้ขยายตัวเกิน 3% แน่นอน “หอการค้าฯเข้าใจดีกว่าภาครัฐต้องพยายามรักษาวินัยทางการเงินการคลัง เพราะที่ผ่านมาใช้เงินในมาตรการต่างๆ ไปมากพอสมควร แต่หากกระตุ้นต่อเนื่องไปอีกสักระยะจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า เพราะนอกจากช่วยให้มีเม็ดเงินเติมเข้าไปในระบบเศรษฐกิจแล้ว ยังช่วยประคองให้ภาคธุรกิจรายย่อยและการจ้างงาน เพราะขณะนี้ มีความท้าทายเศรษฐกิจไทยอยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซล”
สำหรับกรณีที่ตั้งแต่เดือน พ.ค.2565 มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 บาท จะสิ้นสุดลงนั้น หากราคาน้ำมันตลาดโลกยังสูงต่อเนื่อง อาจทำให้ราคาดีเซลในประเทศสูงขึ้นมาเป็นลิตรละ 35-36 บาท รัฐจึงยังต้องสร้างแรงเหวี่ยงทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่าต้องทบทวนนำโครงการคนละครึ่งเฟส 5 มาใช้.