อคส.สะสางงานปลุกองค์กรพ้นขาดทุน ปิดบัญชีจำนำข้าวเร่งคดีทุจริตถุงมือยาง

นายเกรียงศักดิ์ ประทีบวิศรุต ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า นโยบายรัฐบาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร ส่งผลให้ อคส.ไม่สามารถเดินหน้าได้ตามศักยภาพ เพราะมีภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมากที่ไม่สามารถเบิกงบประมาณได้ เช่น โครงการรับจำนำสินค้าเกษตรตั้งแต่ปี 44 จนถึงปัจจุบัน ที่ยังไม่สามารถปิดบัญชีโครงการได้ รวมกว่า 34 โครงการ ดังนั้นจะเดินหน้าสะสางงานค้างเก่า โดยเฉพาะโครงการจำนำข้าวเปลือกที่ปัจจุบันยังมีข้าวเปลือกในคลังกว่า 200,000 ตันที่จะต้องระบายให้หมดภายในเดือน ก.ย.65 รวมถึงสะสางคดีทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง โดย อคส. พร้อมนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไม่ต่ำกว่า 4 คดี

“ความคืบหน้าล่าสุดของคดีนี้ ในส่วนของ อคส.ได้ลงโทษวินัยร้ายแรงโดยให้ออกจากราชการไปแล้ว 3 คน ซึ่ง 2 ใน 3 ออกไปแล้ว ส่วน พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ นายกฯได้ออกคำสั่งย้ายไปนั่งที่สำนักนายกฯแล้ว ส่วนคดีอาญา รอ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ถ้าชี้มูลแล้วจะส่งเรื่องให้อัยการฟ้องร้องดำเนินคดีทันที ขณะเดียวกัน ปปง.ก็จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีแพ่ง และคดีอาญาฟอกเงิน เพื่อให้ชดใช้ความเสียหายให้ อคส.กว่า 2,000 ล้านบาท”

นอกจากนี้ อคส.ได้สร้างเกษตรแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และนำคลังสินค้าราษฎร์บูรณะ ทำเป็นคลังห้องเย็น ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ สร้างรายได้ อคส.ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท จะทำหลุดพ้นจากการขาดทุนซ้ำซากได้.