เปิดมาตรการรับมือน้ํามันแพง เพิ่มสํารองน้ํามัน-ประหยัดพลังงานอย่างเข้มข้น

เปิดสารพัดมาตรการรับมือน้ํามันแพงทั้งเพิ่มปริมาณสํารองน้ํามันดิบ-สําเร็จรูป เปิดสัมปทานปิโตรเลียมรวมพลังรัฐ-เอกชนเพิ่มความเข้มข้นประหยัดพลังงานจาก เดิม 10% เป็น 20% ขณะที่ ปตท.เปิดบริการจูนอัปเครื่องยนต์ ที่ปั้มโออาร์ ส่วน กฟผ. เปิด 2 แคมเปญประหยัดไฟฟ้า

นางสาวนันธิกา ทั้งสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจ พลังงาน (ธพ.) กล่าวว่า ธพ.อยู่ระหว่างหารือเพิ่ม ปริมาณสํารองน้ํามันในประเทศกับโรงกลั่นน้ํามัน ทั้งน้ํามันดิบและสําเร็จรูปอย่างละ 1% โดยน้ํามันดิบ ปัจจุบันสํารอง 4% เป็น 5% น้ํามันสําเร็จรูปจาก ปัจจุบัน 1% เป็น 2% เพื่อทําให้มีปริมาณสํารอง ได้เพิ่มขึ้นอีก 7 วัน ส่วนการนําเข้าน้ํามันดิบ ส่วนใหญ่นําเข้าจากตะวันออกกลางเป็นหลัก นํา เข้าจากรัสเซียเพียง 1% ซึ่งการเพิ่มปริมาณสํารอง ดังกล่าวจะทําให้ต้นทุนราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น 60 สตางค์ต่อลิตรล่าสุดประเทศไทยมีปริมาณสํารอง น้ํามันดิบคงเหลือ ซึ่งนับรวมที่อยู่ระหว่างการขนส่ง อีก 5,686 ล้านลิตร และน้ํามันสําเร็จรูปคงเหลือ 1,708.61 ล้านลิตร เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ํามันของประเทศได้ 61 วัน โดยไม่ต้องนําเข้า

ด้านนายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อํานวยการ สํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าว ว่าการบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านราคา น้ํามันนั้น สนพ.ได้วางแผนบริหารจัดการตั้งแต่ ราคาน้ํามันดิบดูไบที่ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ไปจนถึง 150 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งจะมี รูปแบบการบริหารจัดการที่แตกต่างกัน โดยสนพ. จะมีแนวทางที่ช่วยบรรเทาผลกระทบกับประชาชน ให้มากที่สุดในแต่ละกรณี

ขณะที่นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรม เชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งบริหาร จัดการเปลี่ยนผ่านการผลิตก๊าซธรรมชาติ แหล่ง เอราวัณ (G1/61) จากผู้รับสัมปทานรายเดิมสู่รายใหม่ และเปลี่ยนระบบสัมปทานไปสู่ระบบ แบ่งปันผลผลิตที่จะเริ่มปลายเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งเป็น ไปตามแผนที่กําหนดไว้ แหล่งพัฒนาร่วมไทยมาเลเซีย (เจดีเอ) การเปิดให้สิทธิสํารวจและผลิต ปิโตรเลียมรอบที่ 24 บริเวณทะเลอ่าวไทย เพื่อ นําทรัพยากรปิโตรเลียมมาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ เป็นการเพิ่มโอกาสการพบแหล่งปิโตรเลียมใน ประเทศ เป็นต้น

ส่วนนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดี กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า พพ. ได้เปิดตัวแคมเปญ “รวมพลัง คนไทย ลดใช้พลังงาน หาร 2” โดยความ ร่วมมือของทุกหน่วยงาน ทั้งในสังกัดกระทรวง พลังงาน และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ร่วมกันจัดนิทรรศการ เผยแพร่ให้ความรู้เรื่องการประหยัดพลังงานสําหรับ ประชาชนทั่วไป และข้อแนะนําการประหยัด พลังงาน ทั้งผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ที่ได้กําหนดให้หน่วยงานต่างๆเพิ่มความเข้มข้นในการประหยัดพลังงาน มากขึ้นจากเดิม 10% เป็น 20%

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อสร้างความมั่นคง ทางพลังงานปตท.จึงได้จัดแคมเปญ “กือดจิชวนใช้ พลังงานอย่างคุ้มค่าและประหยัด” สื่อสารรณรงค์ ประหยัดพลังงานด้วยสื่อหลายรูปแบบในทุกช่องทาง พร้อมทั้งจัดให้มีการตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ โดย บริษัท ปตท.น้ํามันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) หรือโออาร์ เพื่อให้เครื่องยนต์มีความ สมบูรณ์ ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงพร้อมด้วยโปรโมชั่น ต่างๆ จนถึงสิ้นเดือนเม.ย.นี้ณปั้มโออาร์ทั่วประเทศ

น.ส.จิราพร ศิริคํา โฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่ากฟผ. ได้จัดแคมเปญ ชวนคนไทยประหยัดพลังงานของประเทศด้วย 2 แคมเปญ คือ แคมเปญ “ล้างแอร์ช่วยชาติ(Clean your air, Clean your life)” ด้วยการมอบ 10,000 สิทธิให้ประชาชนทั่วประเทศล้างแอร์ฟรี สามารถ ลงทะเบียนรับสิทธิได้ที่เว็บไซต์ www.egat.co.th  ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.นี้ และแคมเปญ “ส่วนลด 500 บาท สําหรับซื้อผลิตภัณฑ์เบอร์ 5” มอบอีก 10,000 สิทธิให้กับประชาชนทั่วประเทศที่ซื้อผลิตภัณฑ์ เบอร์ 5 มูลค่า 1,000 บาทขึ้นไป โดยเริ่มใช้สิทธิ ได้ที่ห้างสรรพสินค้าและร้านค้า Green Shop ที่เข้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 30 มิ.ย.นี้ ซึ่งการล้างแอร์สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ ถึง 10% ประหยัดพลังงานได้ถึง 1.8 ล้านหน่วยต่อปี