ครม.ประชุมลับถกรัสเซีย-ยูเครน กุมขมับไร้ข้อสรุปแก้น้ำมันพุ่ง-ท่องเที่ยวตกค้าง

ครม.ปิดห้องประชุมลับถกผลกระทบรัสเซีย-ยูเครน แต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ให้นำมาถกใน ครม.อีกครั้ง ทั้งปัญหาพลังงานพุ่ง ปุ๋ยแพง นำเข้า-ส่งออกถูกกระทบ การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวรัสเซีย-ยูเครนตกค้างในไทย ตัวเลขพุ่งเป็น 30,000 คน ยังไร้มาตรการ ด้าน รมว.คลัง จ่อช่วยกลุ่มผู้เปราะบางเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ในช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งให้เป็นการประชุมลับโดยให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องและทีมงานโฆษกรัฐบาลออกจากห้องประชุมทั้งหมด คงเหลือเพียง ครม.หัวหน้าส่วนราชการ และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เท่านั้น โดยประเด็นที่หารือเป็นการสรุปปัญหาและรับมือจากสถานการณ์สู้รบของรัสเซียและยูเครนใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง บรรยากาศเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด โดยนายกรัฐมนตรีแสดงสีหน้าของความเครียดออกมามากที่สุด เนื่องจากปัญหาที่แต่ละกระทรวงเสนอมายังหาทางออกไม่ได้ นายกฯจึงมอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปคิดแนวทางแก้ปัญหามาเสนอในการประชุม ครม.ครั้งต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงที่มีปัญหาหนักมากที่สุด คือกระทรวงพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกฯและ รมว.พลังงาน เสนอว่าจะขอเจรจาซื้อน้ำมันจากซาอุดีอาระเบีย โดยขอให้ลดค่าพรีเมียม พลัส ที่บวกเพิ่มขึ้นไปจากราคาประกาศที่สูงขึ้นไปถึง 10 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลงมาเหลือเท่าปกติที่ 2-3 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลได้หรือไม่ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า การสู้รบที่เกิดขึ้นกระทบต่อการนำเข้าและส่งออกสินค้าอย่างหนัก โดยเฉพาะการขนส่งทางเรือไม่สามารถวิ่งตามเส้นทางปกติต้องวิ่งอ้อมทำให้ค่าขนส่งแพงขึ้น ด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รายงานปัญหาราคาปุ๋ยที่แพงขึ้นอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่นำเข้าจากรัสเซีย ซึ่งราคาถูกที่สุด แต่ตอนนี้คงต้อง หาตลาดนำเข้าจากประเทศอื่น เช่น จีน มาเลเซีย

นายสุพัฒนพงษ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 9 มี.ค.นี้จะพิจารณาแนวทางที่ดูแลราคาพลังงานให้ได้มากที่สุด เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกได้เกินกรอบที่คาดไว้ที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในการตรึงราคาดีเซลไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร ซึ่ง กพช.ต้องคุยกันหลายรูปแบบ ประชาชนต้องเข้าใจขณะนี้ราคาผันผวนขึ้นมารวดเร็วมาก แบบไม่ลืมหูลืมตา ภายในสัปดาห์เดียว 50% แนวทางการตรึงราคาพลังงาน ก็ต้องใช้กองทุนน้ำมันเป็นตัวหลัก เพราะลดภาษีสรรพสามิตไปแล้ว ซึ่งการกู้เงินมาใส่ในกองทุนน้ำมันและเชื้อเพลิงคงใช้ได้ไม่นาน เป็นไปได้ที่จะขยายเพดานเงินกู้ของกองทุนน้ำมัน และชะลอการจ่ายหนี้ของลูกหนี้การค้า

ส่วนราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่ตรึงราคาไว้ที่ 318 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ต่อถัง 15 กก.ถึงวันที่ 31 มี.ค. ต้องดูว่าสถานการณ์วันนั้นเป็นอย่างไร แต่ราคาจะต่ำกว่าเพื่อนบ้านมากไม่ได้ เพราะจะเกิดการลักลอบออกไป ส่วนการผลิตไฟฟ้าที่ราคาก๊าซธรรมชาติปรับขึ้นจากระดับ 5-10 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียูมาเป็น 90 ดอลลาร์ ต้องหามาตรการใช้เชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่หลากหลาย และพึ่งพาการใช้พลังงานในประเทศให้มากที่สุด รวมทั้งจะมีการพิจารณาการเพิ่มสำรองน้ำมันในประเทศจากปัจจุบันสำรองตามกฎหมาย 60 วัน เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวต่อว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงพลังงาน เพื่อหาแนวทางช่วยลดภาระค่าครองชีพแก่กลุ่มเปราะบาง เช่น การช่วยเหลือค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่จะครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มหรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ครม.ยังไม่มีข้อสรุปตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯเสนอแนวทางป้องกันความเสียหายทางธุรกิจและการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียและยูเครนที่ตกค้างในไทย โดยตัวเลขล่าสุดที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯเช็กกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) มีมากถึง 30,000 คน สูงกว่าจำนวนที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รายงานว่ามี 6,000-7,000 คน ซึ่งข้อเสนอแก้ปัญหาทั้งหมด ทางผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องไปประสานงานเพิ่มเติมก่อน ประกอบด้วย นายสุพัฒนพงษ์ จะไปประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อใช้ระบบของยูเนียน เพย์ รับชำระเงินจากบัตรเครดิตของนักท่องเที่ยวรัสเซีย ส่วนช่องทางชำระเงินผ่านคริปโตเคอร์เรนซีใช้ไม่ได้ เพราะกฎหมายไทยยังไม่รองรับ

“กรณีหาที่พักชั่วคราวให้ชาวรัสเซียและยูเครนที่ตกค้างและไม่มีกำลังจ่ายได้ต้องไปหารือ ททท.ว่าใครจะจ่ายเงิน เพราะเงินกองทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเหลือเพียง 5 ล้านบาท ส่วนเรื่องให้รัฐบาลจ่ายค่ารักษาชาวรัสเซียที่ติดโควิด เพราะประกันสุขภาพอาจหมดอายุแล้ว หรือประกันรัสเซียไม่สามารถโอนเงินมาให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข บอกว่าเวียนหัว เดี๋ยวค่อยคุย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่ตกค้างต้องประสานเอกอัครราชทูต 2 ประเทศช่วยเหลือ และอีก 1-2 วันจะเรียกสมาคมโรงแรม ร้านอาหาร และเอกชนที่เกี่ยวข้องหาทางออกร่วมกัน”.