สลากฯแก้เกมหวังดัดหลังหวยแพง รุกตลาดดิจิทัล เปิดแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ เพิ่มร้านค้าสลาก ขายราคา 80 บาทเพิ่มทางเลือกคนซื้อแบบใบ ชี้โควิดทำคนหันมารับช่วงซื้อสลากขายต่อส่งผลราคาแพง จ่อชงบอร์ด (23 ธ.ค.) นี้ เคาะแผนปฏิรูปวงการขายหวย ยืนยันไม่พิมพ์เพิ่ม ไม่ขึ้นราคา คนขายเดิมไม่รับผลกระทบ โครงสร้างรายได้ไม่เปลี่ยน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบโครงการ “สลาก 80” ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยจะขยายจุดขายจาก 34 จุดจำหน่าย เป็น 74 จุดจำหน่ายและจะเปิดรับสมัครตัวแทนเพิ่มอีก 1,000 จุด เพื่อให้กระจายจุดขายสลาก 80 บาททั่วประเทศโดยจะเปิดรับสมัครในวันที่ 24 ธ.ค. 2564-24 ม.ค. 2565 โดยประชาชนจะสามารถหาซื้อสลากได้ในราคา 80 บาทจากจุดจำหน่าย ตั้งแต่เดือน พ.ค.2565 เป็นต้นไป ถือเป็นการรีแบนด์หรือเปลี่ยนชื่อโครงการร้านค้า จีแอลโอ (GLO) 80 บาท เป็นร้านสลาก 80 บาท
ขณะที่นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการ (บอร์ด) สลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ดสลากวันที่ 23 ธ.ค.นี้ จะพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาล (ลอตเตอรี่) หรือหวยราคาแพงอีกครั้ง หลังจากแก้ปัญหาดังกล่าวเมื่อปี 2558 ที่เปิดให้รายย่อยจองสิทธิขายลอตเตอรี่ผ่านธนาคารกรุงไทยรับสลากที่ไปรษณีย์ไทย แต่ปัญหาราคาหวยแพงยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีผู้ขายสลากออนไลน์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก แต่ไม่มีสลากเป็นของตัวเองไปกว้านซื้อจากผู้ได้รับสิทธิ์หรือโควตา แล้วนำมาขายต่อผ่านระบบแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยกลุ่มนี้ถือครองสัดส่วน 5-10% ของจำนวนลอตเตอรี่ 100 ล้านใบ
“สาเหตุจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด ทำให้มีผู้ค้าลอตเตอรี่ในตลาดเพิ่มขึ้นจาก 200,000 ราย เป็น 400,000 ราย เนื่องจากคนตกงานหันมาขายลอตเตอรี่ ด้วยการไปซื้อลอตเตอรี่จากคนได้รับโควตามาขายต่อ ทำให้ราคาสูงขึ้น เพราะเป็นการรับซื้อช่วง ขณะที่จำนวนลอตเตอรี่มี 100 ล้านใบ ถือว่าเพียงพอต่อความต้องการของคนซื้อ แต่ไม่เพียงพอสำหรับคนขาย จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของปัญหาขายลอตเตอรี่แพง ทำให้ต้นทุนการรับซื้อช่วง สูงถึง 92-95 บาทต่อใบ ดันราคาขายปลีกไปอยู่ที่ 110-120 บาทต่อใบ ขณะที่ราคาต้นทุนที่สลากขายให้ผู้ได้รับสิทธิ์อยู่ที่ 70.40 บาทต่อใบ ซึ่งผลการประชุมบอร์ดในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ จะส่งผลกระทบต่อตลาดออนไลน์ ที่เรียกเราว่าตลาดดอทคอมแน่นอน”
นายธนวรรธน์ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา สำนักงานสลากฯ จะแบ่งเป็นแผนระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้นจะดำเนินการ 2 ระบบ คือ ระบบใบแบบเดิมและระบบดิจิทัล โดยระบบใบนั้นยังคงจำหน่ายเหมือนเดิม ส่วนระบบดิจิทัล สำนักงานสลากฯ จะเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นของตนเอง ซึ่งสำนักงานสลากฯ จะพิจารณาสัดส่วนการจำหน่ายแบบใบและแบบดิจิทัลให้มีความเหมาะสม เพราะต้องยอมรับว่าช่องทางออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมของกลุ่มคนรุ่นใหม่ และขอยืนยันว่าผู้ค้าในระบบเดิมจะไม่ได้รับผลกระทบ
ส่วนระยะยาว จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ มี 4 แนวทาง ได้แก่ 1.ลอตเตอรี่ใบแบบเดิม แต่มาขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ 2.ลอตโต้ 3.สลากรูปภาพ 4.สลากเลข 2 ตัว 3 ตัว ซึ่งต้องใช้เวลา เพราะต้องเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชา พิจารณ์) จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมายไม่น้อยกว่า 6 เดือน หลังจากนั้นต้องเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติถึงจะดำเนินการได้
สำหรับแนวทางการออกลอตเตอรี่ระบบดิจิทัลนั้น ประเทศไทย เป็น 1 ใน 10 ประเทศทั่วโลกที่มีขายสลากแบบใบ ถือว่าล้าหลังกว่าหลายประเทศ โดยเฉพาะในอาเซียนที่ขายแบบดิจิทัลมา 30 ปี รวมถึงลาว และเวียดนามเริ่มขายสลากแบบดิจิทัลแล้ว อย่างไรก็ดี แม้จะเพิ่มแนวทางการขายเป็นแบบดิจิทัลก็จะไม่เพิ่มจำนวนสลาก และยืนยันว่าจะไม่ปรับราคาขายปลีก โดยยังคงขายในราคา 80 บาทต่อใบ ขณะที่โครงสร้างการเงินยังคงเดิม แบ่งเป็นเงินรางวัล 60% นำส่งรายได้รัฐ 23% เป็นส่วนลดให้ผู้ค้า 12% และนำส่งเข้ากองทุนต่างๆ อีก 5%
“แนวทางการขายสลากออนไลน์ในระยะสั้นที่จะขายสลากออนไลน์ควบคู่กับสลากใบนั้น ไม่สามารถแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จ โดยเฉพาะเลขดัง เพราะยังซื้อสลากไปขายเกินราคาได้เหมือนเดิม แต่ถ้าสำนักงานสลากออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 100% เลขสวยเลขดังอาจจะซื้อไม่ได้อั้น โดยแนวทางทั้งหมดจะต้องรอการพิจารณาวันที่ 23 ธ.ค.นี้”.