ประวิตร เปิดแหล่งท่องเที่ยวบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ ส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ประวิตร เปิดแหล่งท่องเที่ยวบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ ส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ

Date Time: 15 พ.ย. 2564 17:30 น.

Video

เช็กให้ชัวร์ คุณอาจกำลัง "พลาด" โอกาสประหยัดภาษีหลายหมื่น! | Thairath Money Night Stand EP.22

Summary

"ประวิตร" ลงพื้นที่ภาคใต้ กระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดแหล่งท่องเที่ยวบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ ส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจให้กับประชาชนนำไปปลูกเพื่อเป็นรายได้ในอนาคต

Latest


"ประวิตร" ลงพื้นที่ภาคใต้ กระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดแหล่งท่องเที่ยวบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ ส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจให้กับประชาชนนำไปปลูกเพื่อเป็นรายได้ในอนาคต


วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเปิดแหล่งท่องเที่ยวบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จ.ระนอง แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำการปิดเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัจจุบันความสวยงามของธรรมชาติต่างๆ ได้ฟื้นตัว จึงเปิดการท่องเที่ยว แบบ New Normal National Park สอดรับกับมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งยังเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวทั้งในส่วนของจังหวัดระนองและของประเทศ 

นอกจากนี้ อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวได้ผ่านมาตรฐาน SHA Plus พร้อมวางมาตรการในการท่องเที่ยวบ่อน้ำแร่ร้อน ให้กับประชาชนที่จะพาครอบครัวมาท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ และพร้อมเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเข้ามารับบริการ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 นี้

หลังจากนั้น พลเอกประวิตร ได้เดินทางไปยังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่องตะวันตก ถนนสายสาม อำเภอเมืองกระบี่ เพื่อติดตามนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ คทช. และได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ในเขตปฏิรูปที่ดิน (สำหรับสถาบันเกษตรกร) ให้แก่ตัวแทน 2 สหกรณ์ คือ สหกรณ์การเกษตรเมืองใหม่เขาพนม จำกัด เนื้อที่ประมาณ 976-0-03 ไร่ และสหกรณ์การเกษตรกระบี่น้อยพัฒนา จำกัด เนื้อที่ประมาณ 973-1-94 ไร่ และมอบกล้าไม้เศรษฐกิจ จำนวน 400 กล้าให้กับผู้นำชุมชน เพื่อนำไปปลูกในพื้นที่ที่ได้รับสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในพื้นที่ คทช. ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกกฎหมาย สามารถปลูกไม้เศรษฐกิจและตัดขายได้เพื่อเป็นทุนออมในอนาคต

โดยในปี 2564 กรมป่าไม้ ได้เพาะกล้าไม้เพื่อสนับสนุนและแจกจ่ายให้กับประชาชนในโครงการ คทช. จำนวน 30,870,000 กล้า และแจกจ่ายไปแล้ว 14 ล้านกล้า คงเหลือกล้าไม้ในพื้นที่ คทช. จำนวน 16 ล้านกล้า

ทั้งนี้ กรมป่าไม้ ยังมีกล้าไม้สำหรับประชาชนทั่วไปที่ต้องการปลูกต้นไม้อีกจำนวน 63 ล้านกล้า สามารถรับกล้าได้ฟรี ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ และสถานีเพาะชำทุกจังหวัด ทั่วประเทศไทย โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล หรือ คทช. โดยจังหวัดกระบี่ได้จัดสรรที่ดินทำกินให้ราษฎร จำนวน 34 แห่ง โดยแบ่งเป็น ป่าสงวนแห่งชาติ 4 แห่ง ป่าชายเลน 29 แห่ง และพื้นที่ปฏิรูปดิน (ส.ป.ก.) 1 แห่ง

สำหรับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าในช่องฝั่งตะวันตกถนนสายสาม ท้องที่ตำบลทับปริก ตำบลเขาทอง และตำบลเขาคราม อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ มีการออกหนังสืออนุญาตให้จังหวัดกระบี่เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2561 แล้ว และมอบสมุดประจำตัว ผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในพื้นที่ คทช. จำนวน 219 แปลง 201 ราย เนื้อที่ 1,775-3-86 ไร่ ตลอดจนมีการ ดำเนินการขับเคลื่อนส่งเสริมการรวมกลุ่มให้กับราษฎรผู้ที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินในพื้นที่

พลเอกประวิตร ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ คทช. อย่างต่อเนื่อง ในส่วนการแจกจ่ายกล้าไม้เศรษฐกิจให้กับประชาชนนำไปปลูกเพื่อเป็นรายได้ในอนาคต ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนกล้าไม้ และให้คำปรึกษาในทางวิชาการ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มสหกรณ์ ส่งเสริมพัฒนาอาชีพหลักและอาชีพเสริม เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์สามารถต่อยอด มีความเข้มแข็ง และสามารถพึ่งพาตนเองได้ พร้อมทั้งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภคที่จำเป็นในพื้นที่ ดำเนินงาน คทช. และได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล หากมีปัญหาอุปสรรค ให้ประสานคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) หรือสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางแก้ไขและพัฒนาประเทศต่อไป


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ