แรงงานสายพันธุ์ใหม่

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

แรงงานสายพันธุ์ใหม่

Date Time: 10 ส.ค. 2564 05:08 น.

Summary

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย หลายชีวิตได้เรียนรู้สัจธรรมแห่งการพลัดพราก ความไม่แน่นอน การดำรงไว้ซึ่งสติสัมปชัญญะ และความมีเมตตากรุณาระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย หลายชีวิตได้เรียนรู้สัจธรรมแห่งการพลัดพราก ความไม่แน่นอน การดำรงไว้ซึ่งสติสัมปชัญญะ และความมีเมตตากรุณาระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ขณะที่พ่อค้าแม่ขาย ผู้ประกอบสัมมาอาชีพในห่วงโซ่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเต็มๆจากการแพร่ระบาด โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว อาหาร โรงแรม และสันทนาการที่เกี่ยวข้อง กำลังต้องเผชิญกับความท้าทายที่เอาชนะได้ยากลำบาก

คนทำงานประจำ มนุษย์เงินเดือน รวมทั้งข้าราชการ ที่ครั้งหนึ่งถูกมองว่าเป็นงานน่าเบื่อ จำเจ ไร้อิสระ กลับกลายเป็นอาชีพที่กระทบน้อย มีเงินเดือนการันตีรายได้สม่ำเสมอ สอดคล้องกับผลสำรวจ Universum 2021 Top 100 Ideal Employer Rankings-Thailand Edition ซึ่งสุ่มถามนักศึกษาไทยจำนวน 11,554 ราย พบว่า ในช่วงการแพร่ระบาด นักศึกษาในกลุ่มที่มีทักษะสูง รู้สึกเปิดกว้างมากขึ้นต่อการทำงานกับหน่วยงานภาครัฐ เนื่องจากข้าราชการมีอัตราเงินเดือนคงที่ แต่หากเลือกทำงานเอกชน มองไปที่บริษัทมหาชนและบริษัทข้ามชาติเป็นหลัก เพราะบริษัทเอกชนอื่นๆทั่วไป อาจเสี่ยงถูกปรับลดอัตราเงินเดือนได้ โดย ปตท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รั้งอันดับต้นๆของนายจ้างกึ่งภาครัฐ ที่นักศึกษาไทยอยากร่วมงานด้วยมากที่สุด

นอกจากแสวงหาองค์กรที่มั่นคงขึ้นแล้ว คนทำงานในยุคโควิดยังปรับทัศนคติต่อการทำงานใหม่ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน จากแบบสำรวจ “ถอดรหัสลับ จับทิศทางความต้องการคนทำงานยุคใหม่” (Global Talent Survey) ซึ่งจ๊อบส์ ดีบี ทำร่วมกับบอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (Boston Consulting Group) และ เดอะ เน็ตเวิร์ก (The Network) ศึกษากลุ่มตัวอย่างคนทำงานกว่า 200,000 คน ใน 190 ประเทศ 20 กลุ่มอาชีพ ในช่วงปลายปี 2563 พบว่า ปัจจัยในการทำงานของคนเปลี่ยนไป ในช่วงก่อนโควิด สิ่งที่คนทำงานต้องการมากที่สุดคือความสมดุลของชีวิตและงาน รองลงมาเป็นความภาคภูมิใจกับงาน, ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน, ความสัมพันธ์ที่ดีกับหัวหน้า และเงินเดือน ผลตอบแทน เป็นอันดับสุดท้าย

แต่หลังเกิดโควิด ปัจจัยในการทำงานเปลี่ยนเป็นให้ความสำคัญกับเงินเดือนและผลตอบแทน มาเป็นอันดับ 1 จากที่รั้งลำดับสุดท้าย ขณะที่ความสมดุลของชีวิตและงาน ถูกให้ความสำคัญท้ายสุดแทน แสดงให้เห็นว่าในช่วงก่อนโควิด คนทำงานให้ความสำคัญกับปัจจัยที่เกี่ยวกับตัวเองมากที่สุด แต่หลังเกิดโควิดให้ความสำคัญกับความมั่นคงมากที่สุด

โควิดยังทำให้ทัศนคติเรื่องสถานที่ทำงานเปลี่ยนไป ก่อนเกิดโควิดพนักงานส่วนใหญ่หรือ 72% อยากเข้าทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลาและปฏิเสธที่จะทำงานทางไกลแบบ Virtual แต่หลังโควิดคนสามารถปรับตัวทำงานระยะไกลได้ดีขึ้น ทำให้ 73% เลือกที่จะทำงานแบบผสมผสานระหว่างออฟฟิศและ Virtual เหลือคนที่ต้องการทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลาเพียง 7%

เมื่อปรับตัวเข้ากับการทำงานระยะไกลได้สำเร็จ คนทำงานทั่วโลกกว่า 57% จึงมีความพร้อมในการทำงานทางไกลกับองค์กรที่เปิดโอกาส โดยประเทศที่คนไทยอยากทำงานผ่านทางไกลด้วยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อเมริกา และจีน ในทางกลับกัน คนต่างชาติที่อยากทำงานทางไกลกับบริษัทไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย รัสเซีย จีน และอินโดนีเซีย

ผลสำรวจของจ๊อบส์ ดีบียังชี้ให้เห็นว่า พลังดึงดูดแรงงานต่างชาติให้เข้ามาทำงานในประเทศไทยเพิ่มความนิยมสูงขึ้น ปีล่าสุดประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 35 ของประเทศที่คนต่างชาติอยากเข้ามาทำงานมากที่สุด ขยับจากอันดับที่ 39 และ 43 ในปี 2561 และ 2557 ตามลำดับ

ลึกลงไปในรายละเอียด เมื่อปี 2561 คนต่างชาติที่อยากเข้ามาทำงานในไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เมียนมา สิงคโปร์ เวียดนาม ฮ่องกง มาเลเซีย แต่พอถึงปี 2563 อันดับเปลี่ยนเป็น สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน อินโดนีเซีย และรัสเซีย แสดงให้เห็นว่าแรงงานคุณภาพจากประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมเข้ามาแข่งขันกับแรงงานไทยมากขึ้น เทรนด์เปลี่ยนจากแรงงานทั่วไป (เมียนมา-2561) เป็นแรงงานเฉพาะทางทักษะสูง (สิงคโปร์-2563) ในขณะเดียวกันคนไทยกว่าครึ่ง ก็พร้อมที่จะออกไปทำงานต่างประเทศ โดย เฉพาะแรงงานในสายมีเดีย ไอที ดิจิทัล วิทยาศาสตร์ วิศวะ

โควิดยังทำให้คนรุ่นใหม่ให้ค่ากับองค์กรที่มีความรับผิดชอบและเคารพคุณค่าความเป็นมนุษย์มากขึ้น 53% ของคนทำงานรุ่นใหม่ ไม่พร้อมทำงานกับองค์กรที่มีค่านิยมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างจากที่คาดหวังไว้ และ 63% ของคนทำงานรุ่นใหม่ชาวไทย ไม่ยินดีที่จะทำงานกับองค์กรที่ไม่สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียมทางเพศและวัฒนธรรมความเชื่อ.

ศุภิกา ยิ้มละมัย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ