นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงมาตรการกำกับดูแลการจำหน่ายชุดตรวจโควิด (Antigen Test Kit) หรือเอทีเค แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตัวเองว่า ที่ผ่านมา กรมการค้าภายใน ได้ทำหนังสือไปยังผู้นำเข้าและจำหน่ายเอทีเค ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้แจ้งต้นทุนการนำเข้า ซึ่งเป็นราคานำเข้า ที่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆและราคาที่จะขายในประเทศ เพื่อที่กรมจะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาราคาขายที่เหมาะสม โดยขณะนี้ ผู้ประกอบการได้ทยอยแจ้งมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม เอทีเคที่นำเข้ามีหลากหลายแบบคุณภาพ และมีต้นทุนที่ต่างกันมาก จึงไม่สามารถ กำหนดราคาเพดานสูงสุดเท่ากันในทุกยี่ห้อว่าควรจะขายได้ไม่เกินเท่าไร ระหว่างนี้พาณิชย์จะใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 29 ติดตามดูแลราคาขายเอทีเค ถ้าพบว่าขายราคาสูงเกินควร หรือค้ากำไรเกิน จะดำเนินการตามมาตรา 29 ที่ถือว่าเป็นมาตราที่กำหนดโทษสูงสุดภายใต้กฎหมายนี้ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เตรียมนำเข้ามาแจกฟรีให้ประชาชน 8.5 ล้านชิ้น นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายของ อย. ที่จะกำกับดูแลการจำหน่าย โดยกฎหมายของ อย.กำหนดให้ต้องขายในร้านขายยาที่มีเภสัชกรแนะนำ ส่วนที่วางขายตามออนไลน์ต่างๆถือว่าผิดกฎหมายของ อย.
ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หลังจากได้ข้อมูลต้นทุนการนำเข้า และราคาขายจากผู้ประกอบการแล้ว สัปดาห์หน้า กรมจะทยอยนำราคาขายเอทีเคแต่ละยี่ห้อ ประกาศบนเว็บไซต์กรมที่ www.dit.go.th เพื่อให้ประชาชนเข้ามาตรวจสอบได้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ.